“ตอนที่เรามาที่นี่ ผมรู้ว่ามันจะดีมากสำหรับผม และอาชีพของผม แต่ตอนที่ผมอยู่ที่นี่ ผมรู้สึกดีเกินกว่าที่ผมคิดว่าจะเป็น” ทีมงานเบื้องหลังคนใหม่ล่าสุดของเจอร์เก้น คล็อปป์กล่าวกับ Liverpoolfc.com ผ่านความช่วยเหลือของอันเดรีย, ภรรยา และล่ามเฉพาะกิจของเขา

“มันเป็นเรื่องที่ดีมาก นี่เป็นสโมสรใหญ่มาก และประวัติศาสตร์ทั้งหมดน่าเหลือเชื่อมาก มันดีมากๆ”

“ผมคิดอย่างนี้ เพราะว่านี่เป็นสโมสรใหญ่ ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ผมคิดผิด!”

“พวกเขาสนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้คุณรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน ถามว่าคุณต้องการอะไรไหม ทุกอย่าง พวกเขาสนใจเกี่ยวกับทุกอย่าง ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ดีมาก พวกเขามีคนที่คอยช่วยเหลือคุณทุกเวลา และทุกสถานการณ์ เรื่องนี้ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ”

“ผมพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก แต่คนที่สโมสรก็คอยช่วยเหลือผมเยอะมาก และเช่นกันกับผู้คนภายนอกสโมสรด้วย ตามท้องถนน ในซูเปอร์มาร์เก็ต ผู้คนใจดี และพวกเขาอยากจะช่วย พวกเขาอยากจะให้คุณรู้สึกดี มันเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเราที่นี่”

“ผมรู้สึกอลิสสันมาแล้วหลายปี เราเริ่มอาชีพในสโมสรเดียวกันอย่างอินเตอร์นาซิอองนาล และผมรู้จักเขาตั้งแต่เขาเป็นเด็กน้อย! คนบราซิลอย่างเราชอบเข้าสังคมร่วมกัน ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราที่มีคนบราซิลหลายคนอยู่ที่นี่ แต่มันสำคัญเช่นกันที่มีมิตรภาพกับผู้คนที่อยู่ที่นี่”

“เรื่องนี้ยังช่วยผมได้เช่นกันในการพัฒนาภาษาอังกฤษของผม และแปลว่าเราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศ นี่เป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับเรา ตอนที่เราอาศัยอยู่ในอิตาลี และตุรกีมันเหมือนกัน เราคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะรู้จักผู้คนจากพื้นที่ที่คุณอาศัยอยุ่ เพราะคุณต้องพยายามจะใช้ชีวิตเหมือนกับพวกเขา”

ความเป็นตำนานจากการเล่นนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก สองสมัย, ได้แชมป์หนึ่งสมัย และติดทีมชาติบราซิลถึง 101 นัด ก่อนย้ายมาเป็นทีมงานในเดือนพฤศจิกายน เขายังทำงานในทีมชาติบราซิลด้วยในเวลานี้ ที่เขาได้ทำงานร่วมกับอลิสสัน เบ็คเกอร์ และเป็นตอนที่เขาทำงานในทีมชาติที่ได้พบกับจอห์น อัชเตอร์เบิร์ก ที่เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายผู้รักษาประตู

“มันน่าจะเป็นเมื่อสองสามปีก่อน และจอห์นเข้ามาดูการซ้อมของทีมชาติบราซิลในลอนดอน” ทัฟฟาเรลเล่า

“ผมคิดว่ามันเป็นตอนที่อลิสสันอยู่ในกรุงโรมที่เขาพูดกับผมว่า ‘ถ้าเป็นไปได้ที่ผมจะดึงคุณมาอยู่กับสโมสรของผม ผมจะทำ’”

“ดังนั้นผมคิดเสมอว่าผมอาจจะได้ทำงานร่วมกับอลิสสันในระดับสโมสรเช่นกัน แต่ผมมีงานของตัวเองที่กาลาตาซาราย และผมกำลังทำงานร่วมกับทีมชาติ ซึ่งผมไม่ได้ตั้งเป้าจะทำงานร่วมกับสโมสรอื่น”

“แต่ผมคิดว่าอลิสสันพุดคุยกบจอห์น และเจอร์เก้น และพวกเขาชอบไอเดียที่ผมทำงานที่นี่ พวกเขาทำให้มันเกิดขึ้น และผมมีความสุขมากๆ ครั้งแรกที่ผมได้ยินมันจากเจอร์เก้น ผมตัดสินใจทันทีว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่จะมาอยู่ที่นี่”

“อลิสสันมักจะพูดกับผมเกี่ยวกับลิเวอร์พูลเสมอ เกี่ยวกับบรรยากาศ และผู้คนที่เป็นมิตรอย่างมาก ทุกอย่างที่เขาบอกผม ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่ามันเป็นความจริง!”

ไม่นานหลังจากการมาของทัฟฟาเรล คล็อปป์กล่าวถึงเป้าหมายของลิเวอร์พูลที่จะกลายเป็น ‘โรงเรียนสอนผู้รักษาประตูที่แท้จริงในวงการฟุตบอล’

“เราอยากจะสร้างปรัชญาของเราเองในการป้องกันประตู เพราะว่าเราทุกคนเห็นตรงกันว่ามันเป็นเกมของเรา ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเรามีมุมมองเกี่ยวกับมันที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง”บอสกล่าวไว้

การมาของทัฟฟาเรลเพิ่มมุมมองที่แตกต่างให้กับอัชเตอร์เบิร์ก และแจ็ค โรบินสันผู้ช่วยโค้ชผู้รักษาประตู แต่ในทางปฏิบัติเขาทำอย่างไร?  และการช่วยเหลือในการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะในอุดมคติของสโมสรอย่างไร?

“ฟุตบอลบราซิล และการป้องกันประตูมีความแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงในแง่ของสไตล์เทียบกับอังกฤษ” ทัฟฟาเรลให้รายละเอียด

“ในบราซิล การทำงานด้านการป้องกันประตูเป็นเรื่องของเทคนิคอย่างเช่นการเคลื่อนที่ และนี่คือหน้าที่ของผมที่นี่ การทำงานในเชิงเทคนิคเหล่านี้กับผู้รักษาประตูรุ่นใหญ่ และเริ่มการสอนให้กับผู้รักษาประตูอายุน้อยๆ ในส่วนของเทคนิคเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”

“จอห์น และแจ็คทำงานร่วมกันในเรื่องของการเตะ และการครอส  นี่เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ที่มีความจำเพาะกับฟุตบอลอังกฤษ ในขณะที่ผมทำงานเน้นการยืนตำแหน่ง การยืนให้ถูกตำแหน่ง และการเคลื่อนที่”

เขายังทำงานร่วมกับเด็กๆ ในแอกซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์อยู่เป็นประจำในขณะที่อัชเตอร์เบิร์ก และโรบินสันอยู่ในเกมของทีมชุดใหญ่ และเขายังได้ตอบคำถามว่าประทับใจเหล่าผู้รักษาประตูหงส์แดงมากแค่ไหน?

“อลิสสันเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก อาเดรียนมีประสบการณ์เยอะมาก และควิวีนแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขาในบอลถ้วย” เขากล่าว

“แต่เช่นกันกับคนอายุน้อยๆ พวกเขามีการเรียนรู้เยอะมาก แต่พวกเขาอยู่ในสภาพที่ดีมาก และพวกเขาจะเติบโตขึ้นมาในปรัชญาใหม่นี้ การทำงานใหม่ เรากำลังทำงาน นี่เป็นเรื่องเยี่ยมสำหรับพวกเขา และดีสำหรับเราด้วยเช่นกัน”

ทัฟฟาเรลที่มีประสบการณ์คว้าแชมป์โกปา อเมริกา 2 สมัยกับทีมชาติ เคยเล่น และมีอาชีพโค้ชทั้งในบ้านเกิด, อิตาลี และตุรกี ก่อนย้ายมาเมอร์ซีย์ไซด์ โดยในวัย 55 ปี เชื่อว่าการเรียนรู้วัฒนธรรมในที่ต่างๆ จะทำให้เขายกระดับการฝึกสอนในฐานะโค้ช

“ผมสนุกกับมันมาก ผมได้เรียนรู้ และผมจะเก็บเกี่ยวทุอย่างจากการทำงานที่เราทำที่นี่ และใช้มันกับทีมชาติ เพราะว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากในการผสมผสานสไตล์”ทัฟฟาเรลยืนยัน

“มันเป็นเรื่องสำคัญที่เอาทุกอย่างมารวมกัน และแก้ไขสถานการณ์ในเกม และการซ้อมด้านเทคนิค มันเป็นเรื่องน่าสนใจมากสำหรับผม”