นี่คือฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพของดิโอโก้ โชต้า หรือไม่?

สถิติชัดเจนมากเมื่อกองหน้าทีมชาติโปรตุเกสทำไปแล้ว 14 ประตูในทุกรายการ มากกว่าตลอดฤดูกาลแรกในแอนฟิลด์ในฤดูกาล 2020-21 ไปเรียบร้อยแล้ว และเขายังเป็นรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ถัดจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และพาทีมผ่านเไปเล่นนัดชิงบอลถ้วยที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

แต่เขาไม่สนใจจะพิจารณาคำถามดังกล่าว และมุ่งมั่นจะทำให้ดีกับความท้าทายถัดไป และโอกาสต่อไปที่จะโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมา

“ผมพบว่ามันยากที่จะตอบ ผมถูกถามคำถามนี้หลังจากที่ผมย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ผมคิดว่าน่าจะก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บในฤดูกาลที่แล้ว แต่มันยากจะที่จะบอก” เจ้าของเสื้อเบอร์ 20 กล่าวไว้ในหนังสือแมตช์เดย์ โปรแกรม

“บางครั้งในเกมต่างๆ คุณแค่ต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลา และคุณก็แค่แตะบอลเข้าไป และบางครั้ง อย่างเกมกับเลสเตอร์เมื่อไม่นานมานี้ ผมอยู่ไม่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาแบบนั้นเลย ดังนั้นมันยากที่จะรู้”

“ยกตัวอย่าง ถ้าผมอยู่ในช่วงเวลานั้นในชีวิต ทำไมผมไม่มีโอกาสจริงๆ ในเกมกับเลสเตอร์? ผมคิดว่าแต่ละเกมแตกต่างกัน และคือความท้าทายใหม่ และคุณต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้เพื่อที่จะโชว์ฟอร์มออกมาในระดับสูงที่สุดของคุณ”

จุดเด่นในการเล่นได้ทั้งสองเท้า และหลากหลายตำหน่งในแนวรุก ทำให้นักเตะวัย 25 ปีกลายเป็นกำลังสำคัญในทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ นับตั้งแต่เซ็นสัญญาเข้ามาร่วมทีมในปี 2020 ซึ่งเขาพัฒนาขึ้นมาจากการลงเล่นในตำแหน่งต่ำกว่าในปัจจุบัน

“ในช่วงต้นๆ ผมเคยเล่นตอน 10 ขวบเป็นกองกลางฝั่งซ้ายในระบบ 4-3-3” โชต้ากล่าว “หลังจากนั้นสภาพร่างกายของผมพัฒนาขึ้น ผมเริ่มเข้าไปในเขตโทษบ่อยขึ้น และทำประตูได้มากขึ้น”

“แล้วตำแหน่งพื้นฐานของผมกลายเป็นเบอร์ 10 คนก็เริ่มคิดว่า ‘โอ้ เด็กคนนี้ยิงได้เยอะ ดังนั้นดันเขาขึ้นหน้า’ นั่นคือพื้นฐานที่มันเป็น”

เขากล่าวเสริมว่า “ผมมักจะพยายามทำสิ่งที่ผู้จัดการทีมสั่งให้ผมทำ ที่วูล์ฟส์บางครั้งเราเล่นโดยใช้กองหน้าสามตัว และผมยืนด้านซ้าย เพราะว่าเรามีราอูล (ฆิเมเนซ) เป็นกองหน้าตัวหลัก เมื่อเราเล่นหน้าสอง ผมจะขึ้นไปในแดนหน้า ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้จัดการทีมสั่งให้ผมทำ”

“ผมพยายามจะปรับตัว และผมคิดว่านั่นคือหนึ่งในคาแรกเตอร์หลักของผม ผมไม่ได้บังคับให้ใครปรับตัวตามผม ผมพยายามจะปรับตัวอะไรก็ได้ที่จำเป็น และทำผลงานของผมให้ดีที่สุด”

“บางคนอาจจะบอกว่าผมไม่ใช่ฟอลส์ ไนน์ ตามธรรม หรือผมไม่ใช่เบอร์ 9 ในขณะที่คนอื่นๆ อาจจะชอบมัน แต่เมื่อใดก็ตามที่ผมลงสนาม ผมตั้งเป้าจะทำประตู และให้ทีมไปถึงหน้าประตูคู่แข่ง นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามจะทำ”