“ตอนนี้ผมคิดว่าถ้ามันจำเป็น ชัดเจนว่าผมจะขึ้นไป โดยปกติแล้วบอสจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้ผมขึ้นไปหรือไม่” ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิลกล่าว

“เกมกับเวสต์บรอม ในตอนนั้นจอห์น (อัชเตอร์เบิร์ก) เป็นคนเรียกให้ผมขึ้นไปในกรอบเขตโทษ ถ้าพวกเขาเรียก ผมจะขึ้นไป ถ้าไม่ ไม่มีปัญหา เรามีนักเตะมากพอที่จะทำประตู”

เขากล่าวเสริมว่า “ผมหวังว่าจะไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น แต่ถ้ามันจำเป็น ถ้ามันเป็นจังหวะสุดท้าย ใช่แล้ว เราจะพยายามทำทุกอย่างที่เราต้องทำเพื่อเก็บชัยชนะ”

และนี่คือส่วนที่เหลือในการพูดคุยกับสื่อมวลชนระหว่างการแถลงข่าวก่อนเกมเลกที่สองกับเบนฟิก้าในแชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศที่แอนฟิลด์ในวันพุธนี้…

ทีมลิเวอร์พูลชุดนี้คว้าถ้วยรางวัลมามากพอหรือไม่

ใช่เลย ผมคิดว่าเราชนะมาหลายๆ อย่างในฤดูกาลที่ผ่านๆ มา อาจจะในฤดูกาลที่แล้วที่เราไม่ได้ แต่เราได้แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ ตอนนี้เรายังต่อสู้เพื่อลุ้นแชมป์เอฟเอ คัพ (เราเคยได้แชมป์) คลับ เวิลด์ คัพมาแล้วด้วย ดังนั้นผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จในเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่เราไม่พอใจ เราไม่ได้พอใจเต็มที่กับเรื่องนี้ เพราะว่าเรายังคงต้องเล่นฟุตบอล และตราบเท่าที่เราเล่นอยู่ เราจะเล่นเพื่อแชมป์รายการต่างๆ

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หงส์แดงต้องเผชิญในค่ำคืนวันพรุ่งนี้

เบนฟิก้าคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาเป็นทีมที่ดีมาก พวกเขาแสดงให้เห็นในเรื่องนี้จากเกมแรก เราทำได้สองประตู และบางทีผู้คนจากภายนอกอาจจะบอกว่า ‘โอเค นี่จะเป็นเกมที่ง่าย’แต่เรารู้ว่า 2-0 เป็นสกอร์ที่ยาก เพราะว่าถ้าคุณเสียประตูเพียงลูกเดียว แล้วเกมจะกลับมาอีกครั้ง พวกเขาทำได้ และเกมยังสูสี พวกเขามีโอกาสหลายครั้ง แต่เราสามารถทำประตูที่สามได้ นั่นคือเรื่องที่ดีมากสำหรับเรา มันเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเกมถัดไป แต่เรายังต้องเจียมเนื้องเจียมตัว และเราต้องโฟกัสกับการทำผลงานให้ดีในวันพรุ่งนี้เพื่อการผ่านเข้ารอบ

มันเป็นบททดสอบที่ยากแค่ไหนในการพบกับเบนฟิก้าในเลกแรก

มันเป็นเกมที่หนัก พวกเขามีศูนย์หน้าที่รวดเร้วมาก พวกเขามีศูนย์หน้าที่แข็งแกร่งเบอร์ 9  ผมรู้จักเอเวอร์ตอนจากบราซิลเช่นกัน ผมรู้เกี่ยวกับคุณภาพของเขา รู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีแค่ไหน พวกเขาทำให้เรามีงานที่ต้องทำเยอะมาก แต่เราพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา เราพร้อม และเตรียมพร้อมสำหรับเกมนี้เพื่อจะทำให้ได้ตามเป้าหมายของเรา

พูดถึงความเป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูลจะได้ลงเล่นเพิ่มอีก 13 เกมในฤดูกาลนี้ และวิธีการที่นักเตะรับมือกับความต้องการทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ…

ในระดับนี้ เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ และเราทำอย่างนั้น เรามีทีมงานด้านฟิตเนสที่ยอดเยี่ยม เราฝึกซ้อมทุกวันเพื่อเรื่องนี้ เรามีเป้าหมายที่จะเอาชนะในทุกนัดชิงชนะเลิศ ลงเล่นทุกเกม มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับเราในฤโกาลนี้ เราต้องการที่จะชนะทุกรายการ ดังนั้นเราพร้อมสำหรับเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันไม่ง่าย แน่นอนว่าบางครั้งเรารู้สึกเหนื่อย แต่คุณต้องจำไว้ว่าคุณต้องมีพลังงานเพียงพอที่จะรับมือกับความท้าทายทั้งหมด

ทัศนคติของเขาคือเขา ‘อยาก’จะลงเล่นทั้ง 13 เกมเหล่านี้ใช่หรือไม่…

ใช่แล้ว เราอยากจะลงเล่นทุกเกม แน่นอนว่าถ้าคุณเล่นเกมเหล่านี้ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกเหนื่อย และหลังจากนั้นคุณอาจจะคิดว่า ‘โอ้ มันเป็นโปรแรมที่บ้ามาก’ แต่เราต้องโฟกัสกับเป้าหมายของเราในตอนนี้ และตอนนี้ก็คือเบนฟิก้า

นักเตะที่เริ่มพูดกันถึงเป้าหมายการคว้าถ้วยรางวัลกันตอนไหน

ผมคิดว่าตลอดเวลาตอนที่เราไม่ได้โฟกัสกับความท้าทายถัดไป เราจะพูดคุยกันนิดหน่อย เราไม่ต้องพูดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่าเราอยู่ในสโมสรใหญ่ที่ต้องการทำสิ่งที่ยอดเยี่ยม และต้องการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เป้าหมายสูง และโฟกัสหลักของเราคือคว้าถ้วยใดๆ ก็ตามที่อยู่ตรงหน้าเรา

มันจะเป็นวันลงเล่นนัดชิงหรือไม่ที่คุณจะคิดถึงการคว้าถ้วยรางวัล

ไม่ ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลคุณก็เริ่มฝันถึงแล้ว คุณเริ่มตั้งเป้าหมาย คุณต้องเตรียมตัวทั้งฤดูกาล และหลังจากนั้นผมคิดว่ามันจะเป็นตอนที่มันเริ่มต้น การเตรียมพร้อมสำหรับทุกช่วงเวลา หลังจากนั้นคุณจะลงเล่น คุณจะรอดูว่าทีมจะไปถึงจุดไหน เรารู้ว่าฟุตบอลไม่ใช่เรื่องง่ายแบบที่คุณตั้งเป้าหมาย และหลังจากนั้นโอเค คุณชนะ คุณต้องลงเล่น คุณต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งชั้นยอด และที่นี่ในอังกฤษ มันยากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก ลีก คัพ หรือเอฟเอ คัพ คุณต้องลงเล่นกับทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่แน่นอนว่าเมื่อคุณเข้าถึงนัดชิงแล้ว คุณต้องรอดูว่าคุณใกล้จะชูถเถ้วยมาแค่ไหน ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นกัน แต่เราเผชิญหน้ากับเกมทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเราด้วยความปรารถนาที่จะเก็บชัยชนะ และบรรลุเป้าหมายของเรา