เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดคุยกับสื่อมวลชนในหลากหลายประเด็นระหว่างการพรีวิวเกมที่ลิเวอร์พูลจะไปเยือนแมนฯ ยูไนเต็ดในวันอาทิตย์นี้
และนี่คือสรุปสิ่งที่ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันพูด…
เขาให้ความสำคัญมากหรือไม่กับสิ่งที่เขาพูดคุยในระหว่างพักครึ่งเวลาของเกมฟุตบอล…
ใช่เลย ผมไม่ได้มีส่วนกับทีมมากนักในระหวางเกม เพราะว่าเสียงเชียร์มันดังมาก ที่วานต๋า เมโทรโปลิตาโน่มันดังมาก เป็บ ลินเดอร์สพูดกับผมตลอด และส่วนใหญ่ผมเข้าใจแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ และเราอยู่ติดๆ กัน ดังนั้นคุณไม่มีทางจะมีอิทธิพลอะไรในเกม มันเป็นเรื่องของมุมมองมากกว่า ‘โอ้ บอสดูไม่มีความสุข’ หรืออะไรแบบนั้น
ดังนั้นใช่ ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่เราจะต้องพูดเรื่องต่างๆ ที่ใช่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมของเกม ในระหว่างพักครึ่ง และถ้าคุณเข้าถึงพวกเขาได้ มันจะรวมถึงในระหว่าเงกมด้วย แต่ชัดเจนว่านั่นคืองานของผม การวิเคราะห์เรื่องต่างๆ ในแนวทางที่ถูกต้อง และบอกเด็กๆ ว่าเราจะยังคงเดินหน้าต่อไปยังไง หรืออะไรที่เราต้องปรับปรุง หรือวิธีการที่เราจะใช้ข้อมูลที่ได้มาจากในครึ่งเวลาแรก นั่นคืองานของผม
ความสามารถของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการกลับมาจากที่เป็นฝ่ายตามหลัง…
ผมยังไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ผมจะพูดคุยกับเด็กๆ จริงๆ แต่เราทุกคนรู้ดีว่าโลกของฟุตบอลเป็นอย่างไร ตอนนี้พวกเขาชนะเกมนั้นมาได้ แต่เกมแมนฯ ยูไนเต็ด-ลิเวอร์พูล ชัดเจนว่าเป็นเกมใหญ่ เรารู้เรื่องนี้ดี
ผมคิดว่าแมนฯ ยูไนเต็ดก็จะไม่ดีใจจนเกินไป กับผลการแข่งขันที่พวกเขาได้มาจนถึงตอนนี้ แต่เราทุกคนรู้ดีว่าพวกเขามีความสามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเชื่อหลายอย่าง มันเป็นอย่างนั้น และเราเข้าใจมันอยู่แล้ว ดังนั้นหลักๆ เราจะต้องโฟกัสกับตัวเอง แต่แน่นอนว่าคุณเพิ่งถามผมเกี่ยวกับการพูดคุยในระหว่างพักครึ่ง เกมมันจะจบหลังเสียงนกหวีดยาวสุดท้าย ไม่ใช่หลังเสียงนกหวีดในนาทีที่ 45, 46 เรารู้เรื่องนี้ดี แต่ผมอาจจะต้องพูดถึง แต่ชัดเจนว่ามันขึ้นอยู่กับผลการแข่งขัน
ความเข้มข้นของเกมแชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์จะอยู่ในหัวของผู้จัดการทีมทั้งสองฝั่งหรือไม่…
เราเล่นในวันอังคาร และตอนนี้เราจะเล่นในวันอาทิตย์ เราเลยไม่จำเป็นต้องคิดถึงมัน ผมคิดว่าว่ายูไนเต็ดที่เล่นวันพุธ-วันอาทิตย์จะต้องคิดถึงมัน ถ้าเป็นวันพุธ-วันเสาร์น่าจะเป็นปัญหาของเรา ที่แอตเลติโก้ชัดเจนว่าเรามีปัญหาหลายอย่าง และหนึ่งคือคู่แข่ง แต่มันเป็นปัญหาใหญ่ และเราเข้าใจมันดี
พวกเขา (แอตเลติโก้) ได้พักมาในช่วงสุดสัปดาห์ ใช่ แน่นอนว่าพวกเขาต้องเล่น 10 คน พวกเขามีพลังงานที่น่าจะแตกต่างจากที่เรามีอย่างสิ้นเชิงในเกมนั้น ดังนั้นเราต้องต่อสู้เพื่อผ่านมันมาให้ได้ มันเป็นอย่างนั้น แต่เราผ่านมันมาแล้ว นั่นคือเรื่องที่ดี และตอนนี้เราพักฟื้นตลอดสองวันที่ผ่านมา และตอนนี้วันนี้เราเริ่มเตรียมตัวสำหรับเกมอย่างเหมาะสม ชัดเจนว่ามันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ ไม่ต้องพิจารณา เพราะความเข้มข้นของเกมล่าสุด อย่างน้อยสำหรับเรานะ
พูดถึงการเปรียบเทียบซาลาห์ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้…
ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำไมเราจะต้องเปรียบเทียบคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และโม ซาลาห์? แน่นอนว่าทั้งคู่เป็นนักเตะระดับโลก ซึ่งมันเป็นอย่างนั้น ผมจะต้องบอกว่าตอนที่ ผมคงจะบอกว่าแม้เท้าซ้ายของโรนัลโด้จะไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เท้าซ้ายของซาลาห์น่าจะดีกว่า
ลูกกลางอากาศคริสเตียโน่น่าจะดีกว่านิดหน่อย และเท้าขวาก็น่าจะดีกว่า แต่ในเรื่องความเร็วพวกเขาค่อนข้างเร็วมาก มีความมุ่งมั่นที่จะทำประตูให้มากที่สุด ซึ่งมันอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ผมไม่เคยคิดจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมไม่ได้สนใจมันมากนัก ขอโทษด้วย
เกี่ยวกับฟอร์มในแนวรุกของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ กับ 36 ประตูจาก 12 เกม…
มันช่วยได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพักครึ่งทักษะการทำประตูของเรา และคิดว่ายังไงเราก็จะทำประตูได้ ดังนั้นเราสามารถเสียได้สองประตู เพราะว่าเราทำได้สามประตูตลอด
มันไม่เกี่ยวอะไรเลย (กับเรื่องนี้) มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าที้เรายิงได้บ่อยๆ เราสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะ และทำประตูได้ แต่การทำได้ติดต่อกันมันแปลกนิดหน่อยกับที่เราทำได้ และผมรู้เรื่องนีด้ ผมชอบชนะเกมฟุตบอลแบบ 1-0 เช่นกัน ซึ่งมันโอเคที่สุด และสำหรับเรื่องนี้เราจำเป็นต้องเก็บคลีนชีต ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีสำหรับเกมกับยูไนเต็ดด้วย
ใช่ การทำประตูมากมายเป็นเรื่องที่ดีต่อความมั่นใจ แต่การวางใจกับมันเป็นขั้นตอนแรกของทิศทางที่ผิดพลาดอย่างสมบูรณ์ ผมคิดว่ามันถูกพูดถึงบ่อยขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เราทำประตูได้มากมาย (แต่) เราไม่มีทางรู้สึกอย่างนั้น เราไม่มีวันคิดถึงมน และนั่นคือวิธีที่เราคิดว่าจะต้องรับมือกับมันยังไง ไม่มีใครรู้ว่าคุณจะทำประตูได้ในเกมต่อไปมากแค่ไหน แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำได้ และหวังว่าคุณจะไม่เสียประตู เพราะนั่นจะทำให้คุณมีโอกาสดีที่จะเก็บชัยชนะ