มันมีเตหุผลในเรื่องนี้ เมื่อทั้งโลกรู้ว่าซิเมากำลังจะเป็นลิเวอร์พูลในการป้องกันแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกของพวกเขาในปี 2006 แต่อดีตปีกเบนฟิก้าได้ทำในสิ่งตรงกันข้า และในฤดูกาลนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองสโมสรเจอกันในรายการนี้ และก่อนการเจอกันอีกครั้งอดีตกัปตันทีมจากเมืองลิสบอนจะมาเล่าว่าเขาใกล้เคียงที่จะย้ายมาแอนฟิลด์แค่ไหนในช่วงซัมเมอร์ของปี 2005

“ณ ตอนนั้น ผมอยู่ในทีมชาติ เหลือเวลา 3-4 วัน (ก่อนปิดตลาดนักเตะ) ซิเมาเล่ากับ Liverpoolfc.com

“ผมได้รับโทรศัพท์ตอนตีห้า ‘คุณต้องมา เราจะไปลิเวอร์พูล’ “

“ผมไปหา (หลุยซ์ เฟลิปเป้) สโคลารี่ และผู้อำนวนการทีมชาติเพื่อขออนุญาตเดินทางไป”

“ตอนที่ผมไปที่สำนักงานของตัวแทนของผม ในช่วงเวลานั้นประธาของเบนฟิก้าโทรมา และพูดว่า ‘เราไม่ได้ยอมรับข้อเสนอ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้บิน ดังนั้นคุณต้องอยู่ต่อไป’

“มันเป็นเรื่องแปลก เพราะผมคิดว่ามันเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนที่ท่านประธานกลับบ้าน เราโทรพาผมอีกครั้ง และพูดว่า ‘มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะบินไปลิเวอร์พูล และได้รับสัญญาใหม่กับลิเวอร์พูล ซึ่งคุณจำเป็นต้องอยู่ต่อ เพราะถ้าคุณเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล แฟนบอลเบนฟิก้าจะโกรธ (ผม)’ ในตอนนั้นผมพูดว่า ‘โอเค ผมอยู่ต่อ’ “

“สำนักงานของตัวแทนของผมอยู่ใกล้กับสนามบิน และตัวแทนทำให้ผมประทับใจมมาก  ‘ไปที่สนามบินกันเลย ตอนที่อยู่ในลิเวอร์พูล บางทีท่านประธานอาจจะตอบตกลง’” “

“ผมพูดไปว่า ‘ไม่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะขึ้นเครื่องบิน และบินไปลิเวอร์พูล’  ผมกำลังเป็นตัวแทนทีมชาติ และถ้าผมตัดสินใจอย่างนี้ ผมต้องมีปัญหาหลายอย่างกับทีมชาติ กับสโมสรของผม ดังนั้นผมตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ”

แม้แต่ตอนนี้มันยังคงเป็นสิ่งคาใจซิเมา  ‘อะไรจะเกิดขึ้น?’ ถ้าการซื้อขายไม่ล้มเหลว

“ความฝันของผมไม่เคยเป็นความจริง” เขายอมรับ “ในการเล่นฟุตบอลอาชีพ ความฝันของผมคือเล่นในพรีเมียร์ลีก ผมเคยเล่นในลีกโปรตุเกส และสเปน แต่นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้น”

“ผมเป็นคนที่โชคดี เพราะผมคิดว่าผมคู่ควรกับอาชีพของผม เพราะว่าผมทำงานทุกวัน และผมได้สิทธิพิเศษในการลงเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อย่างเบนฟิก้า, บาร์เซโลนา, แอตเลติโก้ มาดริด และเช่นกันกับทีมชาติ”

“ความฝันของผมไม่เคยเป็นจริง นักเตะทุกคนต่างต้องการเล่นในพรีเมียร์ลีก”

เขาตามมาหลอกหลอนลิเวอร์พูลหกเดือนต่อไป เมื่อประตูท้ายเกมของลุยเซาช่วยให้ทีมแชมป์จากโปรตุเกสได้เปรียบจากเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย และแม้แชมป์เก่าจะมั่นใจว่าจะพลิกสถานการณ์ได้ในแอนฟิลด์ แต่ซิเมาปั่นโค้งผ่านเปเป้ เซน่า ก่อนที่ฟาบริซิโอ มิคโคลี่จะเขี่ยหงส์แดงตกรอบ

และเมื่อการจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้ายในเดือนมีนาคมทีผ่านมาเกิดขึ้น มันย้อนความหลังของซิเมาขึ้นมาอีกครั้ง

“สำหรับผมแล้ว ผมต้องบอกว่ามันคือประตูที่ดีที่สุดของผม” เขายิ้ม “เรามี 20 นาทีที่ยากลำบากที่แอนฟิลด์ ผมคิดว่ามันเป็นจังหวะแรกที่ทีมได้บอล และสร้างโอกาสได้ดีในการทำประตู”

“นูโน่ โกเมซ มีช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะตอนที่ผมได้รับบอล นูโน่ โกเมซยังคงเคลื่อนที่อยู่ และทำให้ผมมีพื้นที่ด้านใน และยิงประตู ผมรู้จักเรน่า เพราะผมเคยเล่นกับเขา แต่ผมคิดว่าเรน่าไม่มีทางที่จะหยุดประตูนี้ได้!”

“หลังเกมตอนที่เราเข้าไปอยู่ในห้องแต่งตัว แฟนบอลเบนฟิก้าเรียกเราออกไปอีกครั้ง และเราออกไป แฟนบอลลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในสนาม นี่คือเรื่องที่น่าประทับใจมาก”

ซิเมาอำลาเบนฟิก้าในปี 2007 แต่กลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการในส่วนเกี่ยวข้องกับนานาชาติ เขาจะเข้าไปดูเกมรอบก่อนรองชนะเลิศทั้งสองนัด แต่หวังว่าทีมของเนลสัน เวริสซิโม่จะทำได้แบบ 16 ปีก่อน

“มันเป็นคนละทีม ช่วงเวลาที่แตกต่างออกไป” ชายวัย 42 ปีกล่าวต่อไป “เรารู้ว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และเรารู้ว่าพวกเขามีนักเตะดังๆ และนักเตะโปรตุเกสหนึ่งคนอย่างโชต้า ถ้าคุณเริ่มถูกเรียกตัว มันน่าจะเหลือเชื่อมาก”

“แต่เรามีนักเตะดีๆ หลายคนที่เบนฟิก้า เราเคารพลิเวอร์พูล เหมือนกับลิเวอร์พูลให้ความเคารพเบนฟิก้า มันเป็นสองสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ ตอนที่คุณเล่นกับทีมเหล่านี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้”

เบนฟิก้าคว้ารองแชมป์กลุ่มที่มีทั้งบาเยิร์น มิวนิก, บาร์เซโลนา และดินาโม เคียฟ ก่อนที่จะเขียอาแจ็กซ์ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ซิเมาทิ้งท้ายว่า “เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่ในลีกในประเทศเราเจอปัญหาบางอย่าง ผมคิดว่าเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด(ของทีมเบนฟิก้า) คือในแชมเปียนส์ลีก”

“นี่คือเดือนที่ยากสำหรับเรา ผมหวังว่าทีมจะฟื้นตัว เพราะว่าเรามีเกมเยอะมาก แต่แชมเปียนส์ลีกแตกต่างออกไป บางครั้งคุณอาจจะอ่อนล้า แต่เมื่อคุณได้ยินเสียงเพลงของแชมเปียนส์ลีก คุณจะเปลี่ยนไป”