เจ้าของเสื้อเบอร์ 11 ของลิเวอร์พูลคว้ารางวัลอันทรงเกียรติประจำปีเป็นครั้งที่สอง หลังจากเคยทำได้ในฤดูกาล 2017-18 จากฤดูกาลอันโดดเด่น

ซาลาห์ได้รับการประกาศคว้ารางวัลอันทรงเกียรติในงานประกาศรางวัลแห่งปีของพีเอฟเอ ค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยซาดิโอ มาเน่ และเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คเพื่อร่วมทีมอยู่ในรายชื่อ 6 คนสุดท้าย

นับเป็นครั้งที่ 9 ที่นักเตะลิเวอร์พูลได้รับเกียรตินี้ที่เลือกจากเพื่อนร่วมอาชีพ และซาลาห์เป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลนี้สองครั้งร่วมกับสโมสร

“ขอบคุณมาก มันยอดเยี่ยมมาก เหมือนเคย กับการคว้าถ้วยรางวัล ไม่ว่าจะส่วนตัว หรือโดยรวม นี่เป็นรางวัลใหญ่ ผมมีความสุข และภาคภูมิใจมากกับเรื่องนี้” เขากล่าว

“การชนะรางวัลนี้เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ เพราะว่ามันมาจากการโหวตของนักเตะ เมื่อผมคิดถึงมัน แน่นอนว่าผมอยากจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเหนือสิ่งอื่นใด เช่นกันกับแชมเปียนส์ลีก แต่รางวัลส่วนตัวก็แสดงให้คุณเห็นนิดหน่อยว่าคุณทำงานหนักมาก และคุณได้มาจากการทำงานแบบไหน ไม่ใช่แค่เพียงส่วนตัว โดยรวมแน่นอนว่าทีมต้องมาก่อน”

“แต่คุณได้รางวัลจากผู้สื่อข่าว คุณได้รางวัลจากนักเตะด้วย มันแสดงให้คุณเห็นว่าฤดูกาลที่ผ่านมานั้นดีจริงๆ”

นักเตะทีมชาติอียิปต์ลงเล่น 51 เกมให้กับหงส์แดงในฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาชูถ้วยเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพที่เวมบลีย์ ในขณะที่จบรองแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมเปียนส์ลีกอย่างหวุดหวิด

เขาทำไป 31 ประตูในทุกรายการ ขยับไปรั้งดาวซัลโวตลอดกาลในอันดับที่ 9 ของสโมสร และยังทำไปถึง 15 แอสซิสต์

ลูกโซโล่ทำประตูแมนฯ ซิตี้ที่แอนฟิลด์ได้รับการโหวตเป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก และซาลาห์ยังได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ และเพลย์เมกเกอร์แห่งปีจากการทำประตู และแอสซิสต์ในลีกสูงสุดมากที่สุดตามลำดับ

ซาลาห์ยังได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด, นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ แฟนส์

เกี่ยวกับความตั้งใจของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดหลายปีที่ผ่ามาอย่างไร เขากล่าวเสริมว่า “เมื่อคุณอายุมากขึ้นคุณจะมั่นคงขึ้น คุณจะรับมือกับความกดดันได้ดีขึ้น และคุณรู้ชัดเจนว่าอะไรที่คุณต้องการจากฟุตบอล ผมก็แค่พยายามสบายๆ กับมัน และคอยช่วยเหลือทีม”

“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมคิดว่าผมถึงได้เพลย์เมกเกอร์แห่งปี เพราะว่าคุณตระหนักถึงเกมมากขึ้น ซึ่งคุณพยายามจะทำให้นักเตะที่อยู่ถัดจากคุณดีขึ้น และพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นเช่นกันในเกม”

ก่อนหน้านี้นักเตะลิเวอร์พูลที่เคยคว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของพีเอฟเอ รวมถึงเทอร์รี แม็คเตอร์ม็อต (1980), เคนนี ดัลกลิช(1983), เอียน รัช (1984), จอห์น บาร์นส์ (1988), สตีเวน เจอร์ราร์ด (2006), หลุยส์ ซัวเรซ (2014), ซาลาห์ (2018) และฟาน ไดจ์ค (2019)