แม้ดูหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะมีจำนวนนักเตะในทีมน้อยกว่าทีมคู่แข่งในการแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่พวกเขามีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่อาจจะต้องย้ายทีมในเดือนมกราคม
ด้วยการที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือที่มีผู้เล่น 11 ตัวจริงที่ชัดเจนและมักใช้งานอย่างต่อเนื่องหากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน นั่นจึงทำให้นักเตะที่เหลือต่างต้องรอโอกาสในการลงสนาม และมีอีกหลายรายที่อาจไม่มีแม้ที่ว่างบนม้านั่งสำรอง ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อนอาคตการค้าแข้งของตัวเอง
11 นัดที่ผ่านมาพอจะได้เห็นรูปร่างของทีมกันไปแล้ว รวมทั้งนักเตะที่ใช้หมุนเวียนเป็นตัวสำรอง ซึ่งผู้เล่นที่เหลือก็จะต้องมองหาสโมสรใหม่เพื่อการลงสนามอย่างต่อเนื่อง และตลาดเดือนมกราคมคือโอกาสที่ว่านั้น
1. อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อนนี่คือผู้เล่นที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่แข็งแกร่งและดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเวลานั้น รวมทั้งยังเป็นนักเตะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้ความชื่นชอบอย่างมากทำให้เจ้าตัวได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง
หากแต่เมื่อถูกอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเล่นงาน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อ็อกซ์เหลด ก็ไม่เคยได้กลับมาอยู่ในฟอร์มแบบนั้นอีกเลย ในขณะที่แดนกลาง หงส์แดง เต็มไปด้วยผู้เล่นดี ๆ มากมาย นั่นยิ่งทำให้โอกาสของเขาในการลงสนามเป็นตัวจริงห่างไกลออกไป
สำหรับในซีซันนี้แม้จะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง แต่นั่นเป็นเพราะผู้เล่นตัวหลักได้รับบาดเจ็บ คล็อปป์ จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องส่ง ดิอ็อกซ์ ลงสนาม แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจมากนัก และเตรียมกลับไปนั่งเป็นตัวสำรองอีกหลังหลังพักเบรคทีมชาติ นั่นจึงเป็นที่มาของข่าวการย้ายทีม ซึ่งมีทั้ง อาร์เซนอล สโมสรเก่า, นิวคาสเซิล, เซาแธมป์ตัน และ เวสต์แฮม ที่จ้องตาเป็นมันอยู่ในเวลานี้
2. แน็ท ฟิลลิปส์
แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งเมื่อซีซันที่แล้ว หลังจากที่มีส่วนช่วยให้ทีมคว้าโควต้า ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จแถมยังได้รับการต่อสัญญาใหม่ออกไปอีก แต่สำหรับซีซันนี้โอกาสของ “น้องแน็ท” นั้นสวนทางจากปีที่แล้วโดยสิ้นเชิง
การกลับมาของกองหลังรุ่นพี่อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ, และ โจเอล มาติป รวมทั้งการดึง อิบราฮิมา โคนาเต้ มาจาก อาร์เบ ไลป์ซิก ทำให้ ฟิลลิปส์ ต้องกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 5 ในตำแน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ นั่นจึงทำให้เขามีข่าวเรื่องการย้ายทีมออกมาเป็นระยะ
อันที่จริงดาวเตะวัย 24 ปีมีข่าวเรื่องการย้ายทีมมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์แล้ว และ ลิเวอร์พูล ก็ตั้งค่าตัวเอาไว้ที่ 15 ล้านปอนด์และในช่วงเดือนมกราคมข่าวของเขาก็กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะกับ นิวคาสเซิล ที่เคยเกือบจะคว้าตัวได้มาแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หงส์แดง อาจหาทางปล่อยออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวพ่วงด้วยออปชันซื้อขาดภายหลัง
3. ดิว็อค โอริกี
มหาเทพของชนชาว เดอะค็อป เพิ่งจะยิงประตูได้ในเกมที่แพ้ให้กับ เวสต์แฮม 3-2 และมีชื่อกลับมาติดทีมชาติเบลเยียมอีกครั้ง แต่โดยภาพรวมแล้วในฤดูกาลนี้เขาก็ยังได้ลงเล่นน้อยมาก โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงใน คาราบาวคัพ ไป 2 นัดยิงได้ 2 ประตู และลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รวมกันเพียง 67 นาทีเท่านั้น
อันที่จริง โอริกี มีข่าวเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ โดยรายงานระบุว่า บาร์เซโลนา ในยุคของ โรนัลด์ คูมัน ได้ให้ความสนใจจะดึงไปร่วมทีม แต่ข่าวก็เงียบไปพร้อมกับการเปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น ชาบี เอร์นันเดส นั่นหมายความว่าการจะย้ายไป คัมป์นู นั้นคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว
ส่วนอนาคตของเขาที่ แอนฟิลด์ ก็ยังคงเป็นคำถามอยู่ว่าเจ้าตัวจะได้อยู่กับทีมต่อไปหรือไม่ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง เพราะตอนนี้เขากลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายในแผงกองหน้าที่อุดมไปด้วยดาวเตะระดับพระกาฬทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน, ซาดิโอ มาเน, ดิโอโก้ โชต้า และ ทาคุมิ มินามิโนะ
4. เนโก้ วิลเลียมส์
วิลเลียมส์ เป็นผู้เล่นอีกคนของ ลิเวอร์พูล ที่มีข่าวการย้ายทีมมาตลอดในช่วงหลัง ในขณะที่ซีซันนี้เจ้าตัวเริ่มได้รับโอกาสในการลงสนามแทนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปบ้างแล้วในบางนัด หลังจากที่ช่วงต้นซีซัน เยอร์เก้น คล็อปป์ เลือกใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์ มากกว่า
แบ็คขวาวัย 20 ปีได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ เดอะเร้ดส์ เพียงนัดเดียวในทุกรายการและโชว์ฟอร์มได้อย่างดูดีมีอนาคต อย่างไรก็ตามโอกาสในการจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องก็คงมีน้อยนิดเช่นเคย
การย้ายทีมแบบยืมตัวจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับดาวรุ่งรายนี้ เพราะดูเหมือนว่า คล็อปป์ ยังต้องการเก็บเขาเอาไว้ใช้งานต่อไป ซึ่งการลงไปฝึกปรือฝีมือกับทีมระดับ แชมเปี้ยนชิพ ก็คงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
