กลับมาอีกครั้งกับบทความชุด Welcome to World Class
เป้าหมายของซีรีย์นี้ไม่เพียงแต่ควานหานักฟุตบอลที่เราคิดว่าพวกเขายอดเยี่ยมที่สุดในโลกตามมาตรฐานของฟุตบอลในปัจจุบัน แต่เรายังใช้มาตรวัดการให้คะแนนจากนักเขียนและบรรณาธิการของ 90Min ทั่วโลกเป็นเกณฑ์ชี้วัดให้กับการจัดอันดับครั้งนี้อีกด้วย
ทีมงาน 90min ใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาลงคะแนนพิจารณาตัดสินว่าใครคือนักเตะที่ดีที่สุด โดยเราจะเผยเพร่บทความจัดอันดับ 5 นักเตะที่ดีที่สุดของแต่ละตำแหน่งตลอดช่วง 2 สัปดาห์ต่อไปนี้
ข้อตกลงเบื้องต้นของบทความชุดนี้ได้แก่
- นักฟุตบอลในระดับเวิลด์คลาสคือนักเตะที่ดีที่สุดในโลกจัดอันดับเป็น 1 ใน 5 ของตำแหน่งนั้นๆ
- บทบาท ตำแหน่งในสนามในเกณฑ์ของเราคือ GK, RB, LB, CB, DM, CM, AM, RF, LF และ ST
- นักเตะทุกคนได้รับการลงคะแนนใน 10 หัวข้อจำแนกตามผลงานและความสามารถ
- พิจารณาผลงานทั้งในระดับสโมสรและในทีมชาต
#WCW21 เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคมไปจนถึงวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคมนี้โดยคุณสามารถติดตาม รายละเอียดเกณฑ์การวัดทั้งหมดที่นี่
สถิติทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจาก StatsPerform ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2021 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2021 (โดยรวมทั้งการแข่งขันภายในประเทศและฟุตบอลระดับทวีป)
กองกลางตัวรับ (DM)
5. โรดรี้ (New Entry)
จำนวนเกมที่ลงเล่น: 48 นัด
ประตูที่ทำได้: 4 ลูก
ทำแอสซิสต์: 5 ครั้ง
สร้างโอกาสในการทำประตู: 43 ครั้ง
ความแม่นยำในการจ่ายบอล: 92.3%
เข้าปะทะ: 91 ครั้ง
กลายมาเป็นกำลังหลักของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้สำเร็จ พร้อมกับสามารถยกระดับฟอร์มการเล่นจนกลายเป็นกองกลางที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว ซึ่งแน่นอนเขาสามารถทำหน้าที่แทน แฟร์นันดินโญ รุ่นใหญ่ระดับตำนานของทีมได้อย่างไร้ที่ติตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
4. ฟาบินโญ (ตกลงมาจาก อันดับที่ 2)
จำนวนเกมที่ลงเล่น: 35 นัด
ประตูที่ทำได้: 1 ลูก
ทำแอสซิสต์: 1 ครั้ง
สร้างโอกาสในการทำประตู: 11 ครั้ง
ความแม่นยำในการจ่ายบอล: 89.1%
เข้าปะทะ: 63 ครั้ง
ยอดกองกลางชาวบราซิลที่เรียกว่าเป็นใจกลางของทั้งเกมรุกและรับสำหรับ ลิเวอร์พูล ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ แถมในช่วงที่ทีมประสบปัญหากองหลังบาดเจ็บเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวยังสามารถไปประจำการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คจำเป็นได้อีกด้วย
3. โจชัว คิมมิช (ตกลงมาจาก อันดับที่ 1)
จำนวนเกมที่ลงเล่น: 45 นัด
ประตูที่ทำได้: 6 ลูก
ทำแอสซิสต์: 5 ครั้ง
สร้างโอกาสในการทำประตู: 125 ครั้ง
ความแม่นยำในการจ่ายบอล: 88.3%
เข้าปะทะ: 63 ครั้ง
ยอดกองกลางสารพัดประโยชน์ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่เล่นได้แทบทุกตำแหน่งในเกมรับ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังมีเทคนิคอันยอดเยี่ยมแถมยังวางบอลได้แม่นยำสุด ๆ หรือบางครั้งก็ถึงขนาดเติมขึ้นไปยิงเองก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ เรียกได้ว่าเขาคือส่วนสำคัญในความสำเร็จของ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงหลายปีมานี้เลยก็ว่าได้
2. จอร์จินโญ (New Entry)
จำนวนเกมที่ลงเล่น: 44 นัด
ประตูที่ทำได้: 8 ลูก
ทำแอสซิสต์: 2 ครั้ง
สร้างโอกาสในการทำประตู: 39 ครั้ง
ความแม่นยำในการจ่ายบอล: 90%
เข้าปะทะ: 101 ครั้ง
เรียกได้ว่าฟอร์มโดดเด่นมาก ๆ กับ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล ชนิดที่ส่วนหนึ่งที่ สิงห์บลู ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมิดฟิลด์จอมเทคนิครายนี้กำลังท็อปฟอร์มนั่นเอง และไม่ใช่แค่กับสโมสร ในนามทีมชาติอิตาลี จอร์จี้ ก็เป็นกำลังสำคัญที่นำพาอิตาลีผงาดเป็นแชมป์ ยูโร 2020 ที่ผ่านมาอีกด้วย
1. เอ็นโกโล ก็องเต้ (ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 3)
จำนวนเกมที่ลงเล่น: 37 นัด
ประตูที่ทำได้: 2 ลูก
ทำแอสซิสต์: 1 ครั้ง
สร้างโอกาสในการทำประตู: 28 ครั้ง
ความแม่นยำในการจ่ายบอล: 85.2%
เข้าปะทะ: 68 ครั้ง
แม้ในฤดูกาลปัจจุบันเจ้าตัวจะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ต้องบอกเลยว่าเมื่อใดที่เขาฟิตพร้อมลงสนาม เชลซี มักจะเหมือนมีผู้เล่นมากกว่าคู่แข่งเสมอ ๆ ด้วยสไตล์การเล่นที่ขยันวิ่งขยันไล่แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แทบไม่มีกองกลางคนใดที่ทำได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับที่กองกลางรายนี้ทำได้ ซึ่งเขาคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญช่วยให้ เชลซี ผงาดเป็นแชมป์ยุโรปในฤดูกาลที่ผ่านมา
