และนี่คือประเด็นที่บอสพูดกับผู้สื่อข่าวที่แอกซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ถึงเกมวันอังคารที่ผ่านมา…

พูดถึงโปรแกรมในพรีเมียร์ลีกตอนนี้

ผมพูดก่อนหน้านี้ว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ และเราสามารถอภิปรายกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกปี และอะไรทำนองนี้ รู้ว่ามีคนมากมายคิดว่ามันคือประเพณี (และ) เราอยากจะลงเล่นในบ็อกซิ่งเดย์ บ็อกซ์ เราสามารถเล่นในวันบ็อกซิ่ง เดย์ได้ไม่มีปัญหาเลย(แต่)มันเป็นเพราะลีดส์ และสถานการณ์ที่นั่น ซึ่งเราต้องยอมรับ

หลังจากนั้นการลงเล่นในวันที่ 26 และ28 และผมก็ต้องพูดเรื่องนี้ เพราะมันเป็นความจริง ผมคิดว่าคุณสามารถหาทางออกกัเรืองนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากจะเล่นฟุตบอลในแนวทางที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นวันที่ 26 และ29 แทน แล้วปัญหาอยู่ตรงไหน?  บางทีมได้เล่นอย่างนั้น ยูไนเต็ดลงเล่นคืนนี้ และผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาเล่นเกมถัดไปเมื่อไหร่ แต่น่าจะไม่ใช่วันที่ 29

มีวันมากพอสำหรับลงเล่นฟุตบอล และก็แค่จะช่วยนักเตะ แม้จะไม่มีโควิด และปัญหาตอนนี้คือชัดเจนว่าบางทีมมีปัญหาเรื่องโควิดอย่างแท้จริง แล้วคุณต้องเร่งใช้สองกลุ่มเล็กผ่านสองเกม

คุณต้องมีโชคในช่วงเวลาเหล่านี้ และผมคิดว่าเราน่าจะไม่ต้องการโชคในช่วงเวลาแบบนี้ มันเป็นเรื่องของสถานการณ์ เราเคยพูดถึงมัน และพูดบ่อยมาก วันบ็อกซิ่ง เดย์ไม่ใช่ข้อสงสัย เราทุกคนอยากจะลงเล่นบ็อกซิ่ง เดย์ มันเป็นโปรแกรมที่สุดยอด ทุกคนชื่นชอบมัน มันเป็นเรื่องเยี่ยมสำหรับทุกคน มันเป็นเรื่องเยี่ยมสำหรับทุกคน ดีมากสำหรับทุกคน แต่หลังจากนั้น เราจะไม่เลิกพูดถึงมัน เพราะถ้าเราไม่พูดถึงมันแล้วมันจะยังคงเป็นแบบนี้

มันอาจจะยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ดี แต่นักเตะต้องการความช่วยเหลือ และความช่วยเหลือต้องมาจากทุกๆ ส่วน นั่นแปลว่าตอนนี้โค้ชคือคนที่ใกล้ชิดกับนักเตะที่สุด และเราต้องรับมือกับอะไรทุกอย่างเหล่านี้ และนั่นคือเหตุว่าทำไมเราชัดเจนมากในเรื่องนี้

พูดถึงการที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และนาบี เกอิต้าจะพร้อมลงเล่นโปรแกรมพบกับเชลซีในวันที่ 2 มกราคม…

แน่นอนว่าในเรื่องนี้เป็นข่าวดี ผมขอบคุณจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ ผมคิดว่ามันเหมาะม แต่เราต้องการความช่วยเหลือ และเราได้รับความช่วยเหลือในตอนนี้ สโมสรทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กๆ สามารถลงเล่นเกมนี้ และหลังจากนั้นพวกเขาค่อยไป

พูดถึงความท้าทายที่เลสเตอร์จะสร้างขึ้น

เลสเตอร์ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบ เพราะว่าพวกเขาต้องเจอกับการบาดเจ็บ และผมไม่แน่ใจ แต่น่าจะยังคงมีเคสโควิดในทีม เราเพิ่งเล่นกับพวกเขาเมื่อสองสามวันก่อน และพวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่งในเกมนั้น เมื่อวาน เราลงซ้อมตอนที่มันเป็น 4-0 (แมนฯ ซิตี้นำ) และหลังจากนั้นก็มีบางคนมาอกผมว่ามันเป็น  4-3 ‘โอ้ ว้าว!’ แน่นอนว่าพวกเขาตามเข้ามาใกล้มาก พวกเขาเป็นทีมที่ดีมาก สิ่งที่เบรนแดนทำที่นั่นยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจะยากสำหรับเราอย่างแน่นอน แต่เราจะพยายาม

เกี่ยวกับว่าฤดกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ยากที่สุดในการคุมทีมของเขาหรือไม่

มันเป็นฤดูกาลที่ยากที่สุดหรือไม่? ผมไม่รู้ ช่วงเวลานี้ของปีมักจะยากเสมอ อีกครั้งที่ผมสามารถพูดได้ว่ามันไม่ใช่ปัญหา นี่คือสิ่งที่เราคุ้นเคยกับมัน และเป็นสิ่งที่เรารู้กันมาก่อน เรารู้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และกรกฎาคมตอนที่เรามีพรีซีซั่น เรารู้ว่าเราต้องเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลที่ยาวนานมากๆ และส่วนนี้ของฤดูกาลในเดือนธันวาคม และมกราคม มันเป็นอย่างนั้น

แน่นอนว่าสำหรับบางทีมมันจะยากกว่าทีมอื่นๆ ซึ่งถ้าคุณเล่นในทีมชาติด้วยแล้วคุณจะมีเกมเพิ่มมากขึ้นอีกหกเกม ถ้าคุณไปไกลในบอลถ้วยคุณจะมีอีกเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเกม ดังนั้นมันทำให้มีรวมแปดเกมในช่วงเวลาเฉพาะแบบนี้ และนั่นเป็นเรื่องยากจริงๆ

ตอนนี้เรามีเคส (โควิด) สี่เคส และตอนนี้มีห้า, หก และเจ็ดจากทีมงาน และนักเตะเยาวชนหนึ่งคน แต่คุณไม่มีวันรู้ เช้านี้คุณเข้ามา เราต้องทดสอบ และหลังจากนั้นคุณยืนอยู่หน้าตึก และก็หวังว่าจะยังสบายดี

นักเตะของเราไม่มีอาการเลย ทีมงานสองคนก็ไม่มีอาการแม้แต่น้อย ซึ่งแปลว่ามันทำร้ายทุกคนได้ ซึ่งแน่นอนว่านั่นทำให้มันยุ่งยากมาก ในหลายๆ ช่วงที่คุณได้ผลทดสอบเป็นบวกคุณต้องพัก นั่งอยู่รถ ขับรถกลับบ้าน และกักตัว

นั่นเป็นสถานการณ์ที่ทำให้มันยากเป็นพิเศษ มันคือความจริง แต่ช่วงเวลาอื่นๆ ก็มีความยากด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนั้นเราก็ต้องรับมือกับมัน พยายามจะผ่านมันไปให้ไ และเราหวัง เราอธิษฐานว่าทุกอย่างจะดีในช่วงเวลานี้ และในระยะยาวสำหรับพวกเราทุกคน

เราไม่รู้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่านักเตะเป็นไปในรูปแบบใด เพราะว่าเราไม่ได้รับข้อมูลเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ผมไม่แน่ใจมันเร็วแค่ไหนเท่าที่มันจะเป็นไปได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะได้รับมันในทันที อาทิ เขาผลตรวจเป็นบวก และคุณรู้ทันทีว่ามันเป็นสายพันธุ์เดลต้า หรือโอมิครอน ลอดช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาเราเจอเคสอื่นๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันเป็นอาการตอนที่คุณได้รับวัคซีน และเข็มกระตุ้ที่คุณไม่มีอาการใดๆ  ซึ่งเป็นข่าวดีเช่นกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

พูดถึงฟอร์มของนักเตะเยาวชนของลิเวอร์พูลในคาราบาว คัพ สัปดาห์ที่แล้ว และแง่บวกที่เขาได้รับสำหรับอนาคต

ผมมีความสุขมากกับเรื่องนี้ เราต้องขอบคุณมากกับอะคาเดมีที่พวกเขาผลิตคนเหล่านี้ขึ้นมา ผมคิดว่าภูมิภาคที่เราอยู่ และพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ทำให้คุมมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว เช่นกันกับเรื่องการศึกษา ซึ่งพวกเขาไม่เพียงแค่เป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม พวกเขายังเป็นเด็กดีมากๆ เช่นกัน ได้รับการศึกษาที่ดี และอะไรทุกอย่างเหล่านี้ ดังนั้นมมันเป็นแง่ดีมาก

อย่างที่ผมเคยพูด และชัดเจนว่ามันเป็นเคสแบบนี้ ถ้าตัวจริงในครึ่งแรก (กับเลสเตอร์ในสัปดาห์ที่แล้ว) มันออกมาดี มันจะเป็น เพราะว่านักเตะ ถ้ามันไม่เห็นผลมันจะเป็นความผิดของผมเอง ดังนั้นคุณต้องมีความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับว่าคุณจะส่งพวกเขาลงมากแค่ไหนในช่วงเวลาเดียวกัน

มันมากจากเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปแต่ความเป็นไปได้ไม่แตกต่างออกไปมากนัก เราสามารถจัดตัวแตกต่างออกไปจากในรึ่งแรก แต่หลังจากนั้นเราน่าจะต้องเปลี่ยนตัวในครึ่งหลัง

มันเป็นที่แน่ชัดตั้งแต่ก่อนเกม เราโชคดีนิดหน่อยที่เราต้องการทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 95 แต่มันคือสถานการณ์ที่คุณอยู่ เราเคยพูดคุยว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากแค่ไหน และในช่วเวลาเหล่านี้คุณต้องตัดสินใจ เพราะว่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างสัปดาห์ และชัดเจนว่าสำหรับโลกภายนอก นไม่ง่ายที่จะเข้าใจ ผมนึกภาพออก

พวกเขาอยากจะเห็นนักเตะตัวจริงชุดเดิมสนาม  11 ตัวจริงที่ดีที่สุดในใจของพวกเขา ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ในทัวร์นาเมนต์ที่แตกต่างออกไปซึ่งเราผ่านเข้ารอบไปได้ และผมคิดจริงๆ ว่าเด็กๆ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ผมชอบในค่ำคืนนั้น ในคครึ่งแรก แน่นอนว่าตามหลังอยู่ 1-3 และบรรยากาศมันไม่น่าจะดีเท่ากับขึ้นนำ 5-0  แต่มันดี ผู้คนไม่ได้เกรี้ยวกราด หรือผิดหวังกันจนเกินไป พวกเขาแค่คิดว่า ‘โอเค มันเป็นอย่างที่มันเป็น” แต่เมื่อเราก้าวออกมาอีกครั้งคุณน่าจะสัมผัสได้ทันทีว่า ‘พวกเขาพร้อมจะเดินหน้าสำหรับมัน’ ซึ่งแฟนบอลทำอย่างนั้นเช่นกัน และพวกเขาสร้างบรรยากาศที่พิเศษจริงๆ นั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุด

เกี่ยวกับว่าเขาอยากจะให้การเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คนได้รับอนุญาตอีกครั้งในพรีเมียร์ลีกมากกว่าหรือไม่

ใช่ ฟังนะ ผมคิดว่ามีหลายทีม… ซึ่งเราต้องแยกการแข่งขันออกจากกัน (มันมีการพูดว่า) ซิตี้มีตัวสำรองที่ดีกว่า ผมไม่รู้ อะไรเซาท์แฮมป์ตัน และเรามีตัวสำรองที่ดีกว่าเบิร์นลีย์ หรืออะไรแบบนั้น

ใช่ มันน่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่ว่ามันจะไม่มีความหมายอะไรก็ตาม เพราะว่านี่คือพรีเมียร์ลีก และพวกเขายังสามารถสร้างปัญหาให้กับเรา และอะไรทำนองนี้ แต่ถ้าคุณพูดเกี่ยวกับคุณภาพโดยไม่เกี่ยวกับกรลงเล่น ตลาดนักเตะ และอะไรทุกอย่างเหล่านี้ มันจะเป็นเคสแบบนี้

ปัญหาคือความเข้มข้นที่นักเตะระดับท็อปคลาสในอังกฤษต้องเผชิญมันสุดขั้ว นักเตะระดับท็อปในอังกฤษต้องลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก 38  เกม (และ) บอลถ้วยสองรายการ ซึ่งแม้แต่ตอนที่เรายังไม่ผ่านเข้าชิง เราต้องลงเล่นเพิ่มอีก 5 เกม รวมเป็น 43 (เกม)

พวกเขามีเกมทีมชาติกับทีมชาติของพวกเขา เพราะว่าพวกเขาส่วนใหญ่ทุกคนคิดทีมชาติ ดังนั้นอาจจะต้องลงเล่นแปด, เก้า, สิบเกมต่อปี บวกกับเกมแชมเปียนส์ลีก ยิ่งคุณไปได้ไลก็ยิ่งมีเกมรออยู่มากขึ้น ซึ่งคุณจะเข้าไปอยู่จุดที่คุณต้องลงเล่นมากกว่า 50 เกมอย่างรวดเร็ว ฤดูกาลแรกของผมที่นี่เราเล่น (ยูโรปา ลีก)นัดชิง มันเป็นเกมที่ 64 (ของฤดูกาล) ถ้าผมจำไม่ผิด ดังนั้นใช่ ตอนนี้เราต้องมีขุมกำลัง และเราสามารถสลับตัว แต่มีนักเตะหลักบางคคน พวกเขาจะได้พักตอนที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเท่านั้น มันเป็นอย่างนั้น

ตอนนี้การตัดสินใจเกี่ยวกับมันเกิดขึ้น เราตระหนักอีกครั้งในการประชุมผู้จัดการทีม่ามันอยู่ที่ 14 สโมสร ผมคิดว่าคุณต้องการเสียงโหวต 14 เสียงเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน และนั่นเป็นเรื่องที่ผิด ยกตัวอย่างเช่นเบิร์นลีย์ ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขามีนักเตะติดทีมชาติมากแค่ไหน

ตอนที่นักเตะของเราต้องลงเล่นสามเกม พวกเขาไม่มีเกมลงเล่น ดังนั้นพวกเขาเล่นพรีเมียร์ลีก 38 เกม, บอลถ้วย, อีกสองเกม, สาม, สี่เกมทำให้มันรวมเป็น 42 เราพูดถึงปัญหาที่ชัดเจนว่าบางสโมสรเจอ นักเตะบางคนเจอ แต่การตัดสินใจไปอยู่ที่ทีมอื่นๆ และเพราะว่าคุณทำให้การแข่งขันมันเป็นแบบนี้ ‘ไม่ พวกเขาดีกว่าเรา’ และอะไรแบบนี้

นั่นคือปัญหาที่แท้จริง ผมต้องพูด มันคือปัญหาที่แท้จริง มันเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ เพราะว่าคุณดึงนักเตะกลับมาหลังจากติดเชื้อโควิด หรือหลังจากการบาดเจ็บ และเพราะว่าเกมต่างๆ ที่เราต้องลงเล่น พวกเขาต้องลงเล่นทันที และหลังจากนั้นพวกเขาจะต้องพักอีกครั้ง เพราะว่าคุณไม่สามารถให้พวกเขาเปลี่ยนตัวออกหลังจาก 60 นาทีได้ เพราะว่าคุณต้องเปลี่ยนคนอื่น และอะไรทำนองนี้ นั่นคือปัญหาที่แท้จริง

นี่คือเกมที่น่าอัศจรรย์ที่น่าอัศจรรย์มาก เพราะว่าโดยปกติแล้วนักเตะที่อยู่ในสนามจะอยู่ในสภาพที่ดี ซ้อมได้ดี พักฟื้นได้ดี และเดินหน้าลุย และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราชื่นชอบเกมนี้ แต่ตอนนี้สถานการ์ชัดเจนมากว่าเราทำอย่างนี้ไม่ได้ มันก็แค่ยากขึ้น

ยกตัวอย่างหนึ่ง ลีกที่ดีที่สุดในโลก และเป็นลีกที่เข้มข้นที่สุดในโลกเป็นลีกเดียวในยุโรป และอาจจะในโลก ผมไม่รู้นะ ที่ยังคงเปลี่ยนตัวได้สามคน มันไม่ถูก มันไม่ใช่

เราผ่านมาถึงตรงนี้ แต่ผมยังคิดว่าเราต้องพูดถึงมัน เราต้องคิดเกี่ยวกับมัน และเราน่าจะต้องเปลี่ยนแปลงมัน แต่มันคือพรีเมียร์ลีก ริชาร์ด มาสเตอร์สพูดว่าเขาอยากจะตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่เขาทำไม่ได้ เพราะว่าคุณต้องการคะแนนโหวต และทีมอื่นๆ กับปัญหาอื่นๆ ปัญหาที่แตกต่างออกไปพูดว่า ‘ไม่ เราไม่ต้องเปลี่ยนตัวสำรองห้าตัว’ ดังนั้นไม่เห็นโอกาสจริงๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงมันถ้าพูดตามตรง

พูดถึงมุ่งมั่นที่ลูกทีมของเขาแสดงออกมาในการแซงจากที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังกลับมาเอาชนเลสเตอร์ในสัปดาห์ที่แล้ว….

ต้องบอกว่าเราทุกคน เราทุกคนร่วมสร้างบรรยากาศที่แอนฟิลด์ขึ้นมา มันพิเศษมาก มันไม่ได้ทำให้คุณตื่นเต้น มันแค่ผลักดันคุณให้ผ่านไป และมันทำให้คุณมีแรงกระตุ้นพิเศษ ความเป็นจริงแล้วมันช่วยให้คุณโบยบิน ลืมอะไรยากๆ ที่คุณกำลังจะทำ มันเป็นเรื่องที่เข้มข้น ที่ร่างกายของคุณอาจจะส่งสัญญาณบางอย่างว่ามันจบแล้ว หรืออะไรแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่พิเศษสุดๆ

พูดถึงชัยชนะ 4-0 ในเกมเยือนเลสเตอร์ในวันบ็อกซิ่ง เดย์ใน ปี 2019

ฟอร์มอย่างนั้นเมื่อสองปีก่อนหลังจากที่เรากลับมาจากคลับ เวิลด์ คัพ ในกาตาร์ และเราไม่รู้เลยว่าเราจะรับมือกับความเข้มข้นอย่างนั้นยังไง เพราะว่าเราไปเล่นที่นั่นองเกมในระหว่างกลางของช่วงที่เข้มข้นมาก ชัดเจนว่ากับการเดินทางไปอยู่ในที่ที่สภาพอากาศแตกต่าง ในกาตาร์มันอบอุ่นกว่าที่นี่มาก!

คุณกลับมา และเราไม่รู้เลยว่าเด็กๆ จะตอบสนองยังไง และหลังจากนั้นการตอบสนองออกมาพิเศษสุดๆ มันเป็นหนึ่งในฟอร์มนอกบ้านที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยทำได้ ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ โดดเด่น แต่ตอนนี้เราคงเอามาเทียบ(กับตอนี้)ไมม่ได้) และสถานการณ์มันชัดเจน ผมคาดว่าเลสเตอร์จะสู้ด้วยทุกอย่างที่พวกเขามี เพราะว่านั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็น แต่เราอยากไปทที่นั่นเพื่อเก็บชัยชนะกลับมาเช่นกัน ดังนั้นเราจะสู้เช่นกัน มันเป็นอย่างนั้น เกมจะดีแค่ไหนต้องรอดูตอนจบ เราจะรอดู แต่เราจะไปที่นั่นเพื่อชนะเกม ซึ่งั่นก็ยากพอแล้ว