และนี่คือสรุปการแถลงข่าวก่อนเกมของผู้จัดการทีมหงส์แดงที่แอกซ่า เทรนนิง เซนเตอร์…

พูดถึงเชลซี และผลกระทบจากการมาของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

แน่นอนว่าไม่ เราไม่ได้รู้(ผลกระทบ) ผมคิดว่ามันเป็นสองทีม ทีมฟุตบอลที่ดีมาก ทีมฟุตบอลที่มีความสามารถ (ที่) กำลังจะเผชิญหน้ากัน แน่นอนว่าเราได้ดูการทัวร์ของเชลซี อะไรก็ตามที่เราจะได้จากที่นั่น จากเกมหลังๆ ที่พวกเขาลงเล่น เกมกับดอร์ทมุนด์ (และ) เกมกับนิวคาสเซิล เรื่องดีๆ หลายๆ อย่าง คุณคงจะมองเห็นในเรื่องนี้ พวกเขาเป็นทีมที่เต็มไปด้วยความสามารถ นี่คือสิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อม มันเป็นเกมในบ้านของพวกเขา เกมแรกในบ้านของพวกเขาหลังจากพักเบรกมานาน หลังจากฤดูกาลที่น่าผิดหวังต้องบอกอย่างนั้น มันชัดเจน แน่นอนว่าพวกเขาอยากจะแสดงตัวเองออกมา ตอนนี้ผู้จัดการทีมใหม่ พอชเป็นผู้จัดการทีมระดับท็อป ดังนั้นพวกเขาจะแสดงตัวตนออกมา เราต้องพร้อม เราต้องพร้อมอย่างที่สุด ฟุตบอลที่พวกเขาเล่นคุณสามารถมองเห็นมัน พอชอยู่ตรงนั้น

เราเคยปะทะกับเมาริซิโอบ่อยๆ ตอนที่เขาอยู่กับท็อตแนม ซึ่งคุณคงจะเห็นหลายๆ อย่างที่คล้ายคลึงกันจากตอนนั้น และในท้ายที่สุดเราไม่รู้แน่ชัด ผมคิดว่าเอ็นคูคูคือส่วนสำคัญของแผน โชคร้ายมากสำหรักเด็กคนนี้ และสำหรับเชลซีด้วยการบาดเจ็บที่เลวร้าย ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้จริงๆ  แต่พวกเขามีทางเลือกในตัวรุกที่ดีในการแก้ไขเรื่องนี้ต้องรอดู มันเป็นเกมฟุตบอลนัดแรก เกมแข่งขันฟุตบอลนัดแรกอย่างแท้จริงสำหรับเราในฤดูกาลนี้ เราไม่อยากจะเสียเวลา หรืออะไรแบบนั้น เราอยากจะเดินหน้าเพื่อมันจริงๆ แต่เราต้องรอดูว่มันจะเป็นยังไง ทุกคนเรียกร้อง และผมอยู่ในวงการนี้มากว่า 20 ปี เกมแรกมันเป็นแบบนี้เสมอ ผู้คนบอกว่าคุณไม่รู้ว่าคุณยืนอยู่ตรงไหนชัดเจน ผมไม่ได้สนใจจริงๆ หากพูดตามตรง ผมอยากจะให้เราอยู่ในจุด 100 เปอร์เซ็นต์จากสิ่งที่เรามีในวันนั้น และเดินหน้าต่อไปในจุดนั้น ผมคิดว่าเราจะลองพยายามกันจริงๆ

เขามองในแง่ดีแค่ไหนสำหรับฤดูกาลใหม่หลังจากฤดูกาลที่แล้ว

ผมไม่แน่ใจว่าการมองโลกในแง่ดีของผมจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่แล้วหากพูดตามตรง ผมชื่นชอบพรีซีซั่นจนถึงเวลานี้ เราทำงานหนัก ทุกๆ คนคาดหวังในเรื่องนี้ ผมสนุกกับหลายๆ อย่างหากพูดตามตรง มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ เด็กๆ เปิดใจ เด็กๆ ฟัง เปิดหูเปิดตา ซึ่งเราทำหลายๆ อย่าง ไม่เพียงแต่ในสนาม แต่ในการประชุมทีมเช่นกัน เราต้องการเรียนรู้เกมของเราจริงๆ อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเพราะมันต้องแตกต่างจากสิ่งที่เราทำก่อนหน้านี้ แต่เราอยากจะทำให้แน่ใจว่าเราอยากจะก้าวต่อไปในอีกระดับในเกมของเราร่วมกัน

อันนี้ที่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เป็นไปได้ว่าเราเห็นเกมพรีซีซั่นหลายๆ เกม มีหลายๆ ช่วงที่เราเปิดช่องมาจนเกินไป มีช่วงเวลาที่เราป้องกันได้ไม่ดีพอ มันชัดเจน และก็มีเสียงตะโกนดังมาก ผมเข้าใจเรื่องนี้ แต่มันเป็นปัญหาเรื่องการวางระบบมากกว่า ไม่มีอะไรต้องทำด้วยพื้นฐานส่วนบุคคล เพราะว่าคุณภาพส่วนตัวนั้นสูงอย่างที่สุดอย่างที่เรามีที่นี่ มันคืองานของผมที่จะช่วยเหลือเด็กๆ จัดระบบ และปกป้องกันและกันให้ดีขึ้นในจังหวะเหล่านี้ นอกจากนี้(มันคือ)อย่างที่ผมพูด ผมสนุกสนานกับพรีซีซั่น และตอนนี้ลุยกันเลย

บุคลิกภาพของทีมมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน….

เราต้องเติบโตขึ้นไปสู่สิ่งนั้น ตอนนี้ไม่ใช่ว่าคุณสามารถทำได้… มันไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อแปดปีก่อนกับเฮนโด้ (กลายเป็นกัปตันทีม) หรือเมื่อใดก็ตามที่มันเป็น มันจะไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไม่ต้องพูดตลอดว่า ‘แต่มิลลี่คงจะบอกอย่างนี้ และเฮนโด้คงจะบอกอย่างนี้ และเฮนโด้จะตะโกนตรงนี้ และบ็อบบี้คงจะยิ้มที่นี่’  เราจะไม่ทำมันอย่างนั้น มันไม่สมเหตุสมผล เราต้องการเริ่มต้นใหม่ในลักษณะนี้กับสโมสรลิเวอร์พูลที่โหลดใหม่ หากคุณต้องการ มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ทุกคนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง ถูกต้อง เพราะว่าเราอยู่ด้วยกันมานาน และเรื่องต่างๆ ออกมาดีจริงๆ และหลังจากนี้มันจะไม่ดีอีกต่อไป อะไรแบบนี้ เวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงอาจจะเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่จะค้นหาที่เรื่องนี้ เราจะทำมันได้ถูกจังหวะหรือเปล่า? (มันเป็น) เรื่องยากที่จะตอบแต่ตอนนี้มันเกิดขึ้น และนี่คือเรื่องที่ดี”

มันเป็นโอกาสใหม่สำหรับทุกคน ทุกๆ คนต้องก้าวขึ้นมา กลุ่มผู้นำใหม่ และไม่ใช่แค่พวกเขา ดังนั้นหากคุณมองไปที่นักเตะที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้นำ แต่มีทุกอย่างที่คุณต้องการสำหรับการเป็นผู้นำ มันยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ เหล่านักเตะใหม่ที่ยอดเยี่ยม โกดี้, ดอมอายุ 22 ปี(และ)เป็นกัปตันทีมชาติฮังการี แม็คก้าก็โดดเด่นมาก เด็กๆ ที่อยู่ที่นี่เช่นกัน พวกเราทุกคนร่วมแบ่งปันความรับผิดชอบ และมันไม่ใช่เรื่องที่เราน่าจะให้เวลาตัวเองมากเกินไปที่จะเติบโตขึ้นไปหามัน ก็แค่ลองทำมัน ลองรับผิดชอบ และเดินหน้าจากตรงนั้น และไม่ต้องพยายามจะเป็นอย่างใคร เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวคุณเอง และหลังจากนั้นคุณมีโอกาสที่ดีที่จะช่วยเหลือทีมในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และชัดเจจนว่านั่นคือจุดที่เราพยายามจะช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้

สิ่งที่ทำให้คุณมีกำลังใจมากที่สุดเกี่ยวกับการที่ทีมกำลังจะลงเล่นในฤดูกาลใหม่

เซสซั่นต่างๆ ที่ผมได้เห็น ความมุ่งมั่น สมาธิ ความพร้อม ความเปิดกว้าง แค่เรื่องที่ผมเห็นจากหลายๆ อย่างที่ผมคิดในช่วงเวลานี้ว่า ‘โอเค พวกเขารู้งาน ดังนั้นลองลุยกันเลย’ มันเป็นอย่างนั้น คุณคงจะเห็นในเรื่องนี้ เราไม่ได้มีความสุข มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องจะเตือนเด็กๆ ทุกวัน และพูดว่า ‘ยังไงก็ตาม ปีที่แล้วเป็นอย่างนั้นอย่างนี้’ มันสมเหตุสมผล แต่มันเป็นส่วนลึกข้างใน ยังไงมันก็ยังมีอยู่ เราอยากจะแสดงตัวตน อีกสองสามสัปดาห์ ไม่ว่าจะจับสลากที่ไหน เรามีความสุขมากที่ได้เล่นยูโรปาลีก แต่แน่นอนว่าเราอยากจะอยู่ในแชมเปียนส์ลีกในปีหลังจากนี้ มีความเป็นไปได้สองทาง คือคุณผ่านการคัดเลือกไปเล่นแชมเปียนส์ลีก หรือคุณได้แชมป์ยูโรปา ลีก ทั้งสองแบบค่อนข้างยาก แต่เราจะพยายามทั้งสองทาง ผมจะบอกอย่างนั้น และหลังจากนี้เราจะรอดูว่าเราจะทำมันได้หรือไม่ เรามีเป้าหมาย เป้าหมายหลายๆ อย่าง เรามีแรงจูงใจสูงมาก อย่างที่ผมเคยพูด ความรู้สึกของผมดีมากจากพื้นฐานของสิ่งต่างๆ ที่ผมเคยเห็น และเรื่องต่างๆ ที่เราทำในระหว่างพรีซีซั่น

ความคิดของเขาเกี่ยวกับการเพิ่มการทดเวลาบาดเจ็บในเกมแข่งขัน

เป็นเรื่องยากที่จะตอบ ผมรู้ว่าคุณเอามาจากไหน เราต้องเล่นเกม 90 นาที และในท้ายที่สุดคุณมีเวลาเล่นบอลระหว่าง 50-55 นาที และอะไรแบบนั้น และทุกคนอาจจะถามว่า ‘แล้วเวลาที่เหลือบอลไปอยู่ไหน?’ แน่นอนว่ามีหลายๆ จังหวะที่บอลออก และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของเกม และนั่นไม่มีปัญหาเลย แต่เราต้องขยายช่วงเวลาเหล่านี้ไปมาแค่ไหน?  ในท้ายที่สุดหากเราได้เล่นถึง 55-60 นาที เราจะรอดู มันไม่ได้ฟังดูยากเกินไป ผมต้องบอกอย่างนั้น

ตอนที่ผมพูดเกี่ยวกับสวัสดิภาพของนักเตะ ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องโดยทั่วไปที่เรามีการแข่งขันมากเกินไป เรามีเกมมากเกินไปโดยทั่วไปในตอนนี้ แต่การมีบอลให้เล่นในเกมมากขึ้นสามสี่นาที ตอนนี้ผมไม่เห็นว่ามันจะสร้างความแตกต่างให้มากมายนัก เราจะรอดู จะมีความแตกต่างมากขึ้นในตอนท้ายหากคุณมีช่วงต่อเวลาพิเศษ  10 นาที ลองจินตนาการดู เล่นไป 90  นาที มันเสมอกันอยู่ 0-0 หรือตามหลัง 0-1  หรืออะไรก็ตาม และหลังจากนั้นคุณเห็นเลข 10…  นั่นเพิ่มแรงกระตุ้น มันจะเข้มข้นมาก ทุกคนจะเดินหน้าเพื่อสิ่งนี้ ดังนั้นมันจะดูน่าสนใจ ผมยังไม่รู้แน่ชัดว่ามันจะมีผลแค่ไหน เราจะรอดูในเรื่องนี้

แต่ผมเข้าใจว่ามันมาจากไหน ผมคิดถึงเวลาที่เสียมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ผมคิดยิ่งไปกว่านั้นการหยุดเกมเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่ามากๆ เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่คุณคิดว่า ‘โอ้ พระเจ้าช่วย’ คุณมีจังหวะดีๆ สองสามจังหวะ และผู้รักษาประตูล้มลงไปสองนาที และคุณคิดว่า ‘เฮ้ย เขาเป็นอะไร? ไม่เลย?’ มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจในช่วงเวลานี้ แต่มันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จากมุมมองเหล่านี้ ผมค่อนข้างมีความสุขในเรื่องที่เราพยายามจะทำเรื่องนี้ ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่จะให้ใบเหลืองแต่เนิ่นๆ คุณไม่อยากจะโดนใบเหลืองสำหรับการถ่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่าน 15 นาที หรืออะไรแบบนั้น ซึ่งนั่นก็ชัดเจนว่าคุณจะไม่ทำอย่างนั้น

ผมหวังว่าในท้ายที่สุดเราจะหาทางออกที่ดีร่วมกัน ที่เราไม่ต้องต่อเวลาพิเศษ 10-15 นาที และมีใบเหลืองทุกๆ ที่ เราต้องหาทางออก แต่เพื่อเป็นการเตือนสติ เอาเลย อันที่จริงเราอยู่ตรงนี้เพื่อเล่นฟุตบอล และไม่ใช่ปล่อยให้เวลาหมดไปในตอนที่เราได้ผลการแข่งขันที่เราต้องการ ผมคิดจากมุมมองนี้ว่าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกครั้งการเล่นฟุตบอลมากขึ้นจะเป็นเรื่องยากเมื่อมียืดเวลา เพราะว่าเราเล่นเกมรุก ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้ ผมรู้ว่าคนในวงการฟุตบอล และแฟนบอลเป็นแบบ ‘ใช่แล้ว แต่พวกเขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ พวกเขาได้สิ่งนั้นสิ่งนี้’ ไม่มีอะไรต้องทำกับมัน เราอยู่ตรงขอบ เราต้องทำให้แน่ใจว่าในอนาคตเราต้องแก้ไขเรื่องมัน น่าเสียดายมาก ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้มากนัก เพราะว่ามันมีค่าใช้จ่าย และไม่มีใครมีความสุขกับเรื่องนี้

เราต้องรอดูว่าฤดูกาลถัดไปจะเป็นยังไงในส่วนนี้ มันจะน่าสนใจจริงๆ ผมแน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าผมจะยืนอยู่ตรงนั้น และหากเราขึ้นนำ 1-0 และบางคนบอกผมว่า 12  นาที ผมคงจะไม่ดีใจอย่างที่สุด ในอีกทางหนึ่ง ผมคิดว่า ‘โอเค มันใกล้จะพักครึ่งละ ลุยเลย’ เราจะรอดู