และนี่คือสรุปการพูดคุยกับสื่อมวลในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา…

พูดถึงการเลื่อนเกมสุดสัปดาห์กับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

แน่นอนว่าในหนึ่งสัปดาห์การลงเล่นวันเสาร์-วันพุธ-วันเสาร์จะเป็นสัปดาห์ที่ยากมากอยู่ดี การกลับมาถึงช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี และอะไรแบบนี้ แต่ใช่ เราอยากจะลงเล่น แต่ด้วยเหตุผลที่เราทุกคนรู้ดี มันไม่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าเราให้ความเคารพในเรื่องนี้ ตอนนี้เราพยายมจะใช้เวลาเพื่อวิเคราะห์ และฝึกซ้อม ซึ่งนั่นจะเหมาะสมที่สุดหลังจากที่เราเล่นในเกมเยือนนาโปลี

พูดถึงการประเมินหลังเกมกับนาโปลีที่ลิเวอร์พูลต้อง ‘ยกเครื่อง’ ตัวเองใหม่ และความคิดเพิ่มเติมในเรื่องนี้…

ใช่แล้ว มีเรื่องต้องคิดหลายอย่าง ผมใช้เวลาย้อนกลับไปดูเกมพอสมควร และมันเหมือนกันรายการสยองขวัญถ้าพูดตามตรง ซึ่งเราเปิดให้เด็กๆ ดูจังหวะต่างๆ เช่นกัน พวกเขารู้ดี แต่หลังจากที่ดูมันอีกครั้งทำให้มันกระจ่างขึ้น มันน่าจะเป็นเกมที่แย่ที่สุดที่เราเคยเล่นตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ และเรามีเกมแย่ๆ สองสามเกม เราทุกคนรู้เรื่องนี้ ทุกคนน่าจะจำได้ในเกมกับแอสตัน วิลลา และเกมอื่นๆ ที่เราเร่งความเร็วขึ้นมา และทำอะไรทำนองนี้ไม่ได้ มักมีแววบางอย่างสำหรับเสมอแม้แต่ในเกมเหล่านี้

โดยเฉพาะในเกมนี้ ไม่เลย ดังนั้นชัดเจนว่าคุณต้องเข้าใจว่าทำไมมันเกิดขึ้น ผมคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา มันมากกว่าเรื่องส่วนบุคคล เพราะผมคิดว่าเกือบ 8 จาก 11 คนที่เล่นต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขาที่ปกติพวกเขาสามารถเล่นได้ และอีกสามคนไม่ได้อยู่ในระดับท็อป แค่อยู่ในระดับธรรมดา ผมต้องบอกอย่างนั้น ฟุตบอลเป็นอย่างนี้ คุณต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะบุคคลทั้งหมดเป็นทีม และนั่นคือประเด็นหลักที่เราต้องทำ เพื่อทำตามไอเดียพื้นฐานอีกครั้ง ทุกอย่างที่เราทำมาตั้งแต่ผมอยู่ที่นี่ และทุกทมทำคือฟุตบอลที่มีพื้นฐานเกมรับที่เหนียวแน่น ไม่ก็ใกล้เคียงจะสมบูณ์แบบในการตั้งรับ นั่นคือจุดที่ทุกอย่างเริ่มขึ้น และนั่นคือจุดที่เราต้องแก้ไข และนั่นคือสิ่งที่เราทำ

พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะพลิกสสถานการณ์ในกลุ่ม เอ

ใช่แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดถึง แน่นอนว่าเราต้องแสดงปฏิกิริยาออกมา เรารู้ดี มันไม่ได้การันตีผลการแข่งขันกับกับอาแจ็กซ์ จริงๆ แล้วผมต้องบอกว่าอยู่ในสถานการณ์ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาชนะทุกเกมในฤดูกาลนี้ การที่ต้องสร้างทีมอีกครั้ง การที่ต้องสร้างทีมขนานใหญ่ แต่การทำได้ก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์กับการทำงานที่ดีอีกครั้ง

การคิดถึงสถานการณ์ในกลุ่ม ผมไม่คิดว่ามันจะช่วยอะไรได้มาก เรารู้เกี่ยวกับมัน ยังไงมันก็ชัดเจน แต่มันเป็นเกมเหย้าในแชมเปียนส์ลีก ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะปล่อยให้แต้มทั้งหมดหลุดมือก่อนที่เราจะเริ่มเกม แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราเล่นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่เราทำตอนเยือนนาโปลี และเราจะรอดูว่าเราจะได้อะไรจากเรื่องนี้ มันเป็นอย่างนี้เสมอ ถ้าคุณต้องการจะแก้ปัญหา และถ้ามันไม่เห็นผลในตอนแรก แบบทันทีแล้วคุณคิดว่า ‘นั่นเป็นข้อผิดพลาด’ คุณต้องพยายามทำอีก ซ้ำแล้วว้ำเล่า แม้แต่เราทุกคนในตอนนี้ตระหนักว่าเราต้องตั้งรับให้ดีขึ้น มันไม่ได้หมายความว่าจากนี้ไปเราจะไม่ผิดพลาดอีกแล้ว เพราะว่ามันยังคงเกิดขึ้นได้ มันเป็นอย่างนั้น และหลังจากนั้นคุณต้องรับมือกับเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่น เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราทุกคนมีไอเดียที่เหมือนกัน และหวังว่ามันจะเป็นไปได้ในค่ำคืนวันพรุ่งนี้

พูดถึงการแสดงปฏิกิริยาออกมาในเกมกับอาแจ็กซ์

ถ้าผมไม่อยากจะทำเรื่องหนึ่ง (มัน) คือการให้คำใบ้กับอาแจ็กซ์ หรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการสำหรับสิ่งที่พวกเขาคาดไว้ในค่ำคืนวันพรุ่งนี้ และอย่าให้เป็นข่าวพาดหัว หรืออะไรแบบนั้น และมันไม่ใช่เวลาที่เราจะทำเรื่องนี้ เราจะไม่สร้างข่าวก่อนเกม ถ้าเป็นพาดหัวที่ดีก็ขอเป็นหลังเกม และสำหรับโอกาสที่เราจะทำในระหว่างเกม ผมคิดว่าอาแจ็กซ์คาดหมายว่าเราจะตอบโต้ ผมไม่แน่ใจตว่าพวกเขาจะใช้หลายอย่างในเกมกับนาโปลี และพูดว่า  ‘ใช่แล้ว โอเค นั่นคือวิธีการที่พวกเขาสามารถเล่นได้เช่นกัน’ แต่ถ้าคุณเห็นเราในฤดูกาลนี้ว่าเราแค่ไม่สม่ำเสมอเพียงพอจนถึงเวลานี้ นี่คือความสม่ำเสมอที่เราต้องสร้างอีกครั้ง มันเหมือนเดิมเสมอ มันเริ่มจากเกมรับเสมอ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำให้ดีขึ้น และจากนี้นเราจะรอดูว่าเราจะทำอะไรได้กับเรื่องนี้

พูดถึงการที่แอนฟิลด์จะสงบนิ่งหนึ่งนาทีเพื่อแสดงความเคารพกับสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ก่อนเกม…

ใช่ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะทำ แต่ผมไม่คิดว่าคนของเราต้องการคำแนะนำใดๆ จากผมเพื่อแสดงความเคารพ มีตัวมากมายที่คนของเราแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่เหมาะอย่างชัดเจน ครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจมาก และผมภาคภูมิใจมากๆ กับช่วงเวลานั้น เป็นปีที่แล้วตอนที่เราเล่นกับแมนฯ ยูไนเต็ดในช่วงเวลาที่น่าเศร้ามากๆ เกี่ยวกับครอบครัวของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และนั่นคือสิ่งที่ผมคาดหวัง สำหรับผม มันชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ มันเป็นอย่างนั้น

พูดถึงประสบการณ์ของเขาตลอดหลายวันนับตั้งแต่การจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถ 

ผมมีประสบการณ์?  ผมค่อนข้างยุ่ง แต่ยังมีบางส่วนตรงนั้นตรงนี้ อย่างที่ผมเคยพูดก่อนให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมอายุ 55 ปี และพระองค์เป็นพระราชินีของอังกฤษมาตลอดตั้งแต่ผมจำความได้ ผมไม่รู้จักพระองค์ แต่เรื่องที่คุณมองเห็นได้ในตอนนี้คือ พระองค์เป็นคนอบอุ่น น่ารัก เป็นสตรีที่เป็นที่รัก และนั่นคือทุกอย่างที่ผมจำเป็นต้องรู้ ชัดเจนว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ผมคิด มันเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคิดว่าใครอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์มากกว่า หรือรู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์มากกว่า ผมให้ความเคารพความเศร้าโศกของพวกเขาเป็นอย่างมาก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจะแสดงความเคารพในค่ำคืนวันพรุ่งนี้ตลอดช่วงเวลาสงบนิ่งหนึ่งนาทีที่ผ่านไป

เกี่ยวกับว่าเขามีการพูดคุยกับนักเตะแบบ ‘ตัวต่อตัว’ หลังจากรีวีวเกมกับนาโปลีหรือไม่…

ไม่ทั้งหมด แต่บางคน ซึ่งเป็นการประชุมโดยทั่วไป เปิดให้ดูจังหวะเหล่านี้ และมันชัดเจนเกินไป จริงๆ มันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับมัน แต่ชัดเจนว่ายังไงเราก็ต้องทำ หรือผมต้องทำมันอยู่ดี จากนั้น ใช่ การพูดคุยแบบส่วนตัวก็เกิดขึ้นเช่นกัน  ผมตั้งคำถามกับนักเตะหรือไม่?  ไม่ ถ้าคุณถามผมโดยทั่วไป ไม่ ในสถานการณ์นี้ ใช่ ‘ทำไมคุณทำอย่างนั้นอย่างนี้?’ แต่ตอนนี้อย่างที่ผมรู้มันมาตลอด สถานการณ์เป็นอย่างนี้ เราพาตัวเองมาอยู่ในสถานการรณ์ไม่มีใครจะตอบสนองได้อย่างถูกต้องอีกต่อไปในเกมนี้ ตอนที่เจมส์ มิลเนยอร์เข้าสกัดช้า และเสียบอลตอนที่จริงๆ เราน่าจะชนะ หรือน่าจะเข้าไปใกล้ และอะไรแบบนี้ จากนั้นคุณรู้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดพลาด ชัดเจนว่าเรามีปัญหาในเกมฟุตบอล ผมหมายถึงการตั้งรับ การเล่นเกมรุก อะไรแบบนี้ และสิ่งที่นำมาซึ่งปัญหาเหล่านี้น่าจะเป็นการอ่านจังหวะผิด

ผมรู้ว่านักเตะอยากจะแก้ไขสถานการณ์ เราไม่ได้ดีใจมากกับฤดูกาลของเราจนถึงตอนนี้ เราไม่คิดว่าเราเล่นฟุตบอลได้โดดเด่นเป็นพิเศษ และไม่สามารถปรับปรุง หรืออะไรแบบนั้น ดังนั้นในเกมนี้มันดูเหมือนว่าทุกคนต้องการจะแก้ไขปัญหา แต่ด้วยตัวของเขาเอง และมันไม่ทำให้เรามีโครงสร้างที่จะทำงานร่วมกัน จากนั้นเกมจะดูเหมือนแบบนี้ถ้าจากนั้นคู่แข่งเล่นได้อย่างสุดยอด เป็นทีมที่ดีมาก ชัดเจนว่านาโปลีเป็น อยู่ในช่วงเวลาที่ดี และเล่นได้ดีหลายอย่าง เราทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับพวกขเาด้วย พวกเขามีเกมที่ดีมาก ใช่แล้วนั่นคือผลที่ตามมา

ในท้ายที่สุด เราทุกคนเห็นตรงกัน และรู้เรื่องที่เราน่าจะเสียประตูในเกมมากกว่านั้น ไม่มีข้อสงสัย เราน่าจะทำได้หนึ่งหรือสองประตูด้วยเช่นกัน แต่เราน่าจะเสียประตูมากกว่านั้น ซึ่งบ้ามาก ดังนั้นใช่ ตอนนี้ผ่านมาสี่ห้าวันแล้วมันคือความจริงอย่างที่สุด ซึ่งไม่อาจจะหลบซ่อนอีกต่อไป เราไม่ได้เก็บอะไรไว้ ไม่จำเป็นต้องทำเราก็แค่พูดว่ามันเป็นยังไง แต่ไม่ได้ต่อยนักเตะร่วงลงไป หรืออะไรแบบนั้น  ไม่ ก็แค่ทำให้แน่ใจว่าจุดไหนที่เราอยู่หลังจากเกมนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นสำหรับเรา ตอนนี้เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราแก้ไขปัญหาร่วมกันในสนามอีกครั้ง

ไม่มีการชี้นิ้วใส่กัน หรืออะไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องที่ดีส่วนใหญ่ในเกมนี้ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครในกลุ่มเราคลั่งที่ดีกว่าอย่างบ้าคลั่ง และทำได้สี่ประตู และเราเสียประตู จากนั้นพวกเขาก็พูดได้ว่า ‘เกมรุกเราทำได้ดี’  ไม่ เราไม่ดีในทุกๆ ส่วน เรามีฟอร์มธรรมดาสองสามคน และที่เหลือต่ำกว่ามาตรฐานจากสิ่งที่พวกเขาทำเป็นประจำ ซึ่งนั่นคือส่วนมาก และอีกครั้ง ผมเข้าใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่ามันคือการแถลงข่าว คุณคือนักข่าว ผมเป็นผู้จัดการทีม เราต้องตอบคำถาม แต่ความกังวลของผมในตอนนี้คือเรื่องที่เราต้องทำ นั่นคือเราต้องแสดงออกมาในค่ำคืนวันพรุ่งนี้ นั่นคือทั้งหมด และทีละขั้น ปัญหาใหญ่ๆ คือคุณไม่ได้แก้ไขปัญหาในชีวิตง่ายๆ ด้วยการดีดนิ้ว คุณต้องแก้ไขมัน และนั่นคือสิ่งที่เราจะทำ