นักเตะชาวอียิปต์ทำไปแล้ว 12 ประตูใน 11 เกม และเพิ่งทำสถิติใหม่ระหว่างเกมที่เอาชนะแอตเลติโก มาดริด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อเขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ทำประตูได้ 9 เกมติดต่อกัน

นอกจากนี้ สองประตูที่ซาลาห์ทำได้ที่สตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่ ทำให้เขายิงได้ 31 ประตูในรายการแชมเปียนส์ลีกให้กับลิเวอร์พูล แซงหน้าสตีเวน เจอร์ราร์ด ขึ้นเป็นนักเตะที่ทำประตูในรายการนี้มากที่สุดตลอดกาลของสโมสร

นักเตะวัย 29 ปี จะหาทางเพิ่มสถิติสูงสุดของเขา เมื่อลิเวอร์พูลออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ แต่คล็อปป์ใช้ส่วนที่สองของงานแถลงข่าวก่อนเกมของเขาเมื่อวันศุกร์เน้นย้ำถึงความอันตรายในเกมรุกที่สำคัญที่ทีมในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะสร้างขึ้น

นี่คือบทสรุปในสิ่งที่ผู้จัดการทีมกล่าวกับบรรดานักข่าว…

พูดถึงว่าในตอนนีเขาเริ่มที่จะ ‘คาดหวัง’ ให้บางสิ่งเกิดขึ้น เมื่อซาลาห์เข้าสู่พื้นที่ยิงประตูและว่ามีนักเตะมากมายที่เคยทำให้เขารุ้สึกเช่นนั้นมาก่อนหรือไม่…

ผมเคยพูดถึงมันมาสองสามครั้งแล้ว และมันเป็นความจริง ผมมีความสุขกับบรรดานักเตะที่เหลือเชื่อซึ่งผมเคยร่วมงานด้วยระหว่างช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่เลย เมื่อลูกบอลไปถึงบรรดานักเตะในสถานการณ์นั้น (สำหรับประตูแรกกับแอตเลติโก) และโมต้องวิ่งอย่างเร็วเพื่อเข้าถึงมันก่อนที่บริเวณริมเส้น และแล้วเขาก็หมุนตัว มันไม่ได้ดูเป็นโอกาสที่จะทำประตูได้สำหรับผม แต่การต่อสู้แย่งชิงบอลนั้นมันทำให้ไปสู่โอกาสนั้น ซึ่งนั่นคือสถานการณ์ นั่นคือความแตกต่างระหว่างจังหวะหนึ่ง เมื่อโมเมนตัมไม่อยู่กับทีมของคุณ และเมื่อโมเมนตัมอยู่กับทีมของคุณ เราทุกคนรู้ดีในเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องของคุณภาพของโมในจังหวะนี้ที่ทำมัน พยายามจะทำมัน และคุณสามารถจินตนาการได้เลยว่านักเตะแอตเลติโกทั้งหมดต่างก็รู้ดีเกี่ยวกับคุณภาพนี้มากขนาดไหน และต้องการป้องกันมันอย่างเต็มที่ และยังไม่สามารถทำได้ พิเศษสุด ๆ เลย พิเศษมาก ๆ ใช่ ผมรู้สึกอย่างนั้น ผมมีความสุขมากและยิ่งกว่าดีกับบรรดานักเตะที่ผมอาจเคยผ่านตามาหลายครั้ง และมองในมุมบวก เมื่อพวกเขาได้บอลว่าบางสิ่งที่พิเศษจะเกิดขึ้น

พูดถึงคริสเตียโน โรนัลโด ว่าได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยม เพราะผลงานที่ยาวนานของเขาและว่าซาลาห์ก็สามารถรักษาผลงานในระดับของเขาต่อไปเป็นเวลานานเช่นเดียวกันได้…

ใช่ คุณต้องการโชค เพราะสิ่งต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ อาการบาดเจ็บและอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ผมคิดว่าความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่อาจเป็นสิ่งเดียวที่คุณสามารถเปรียบเทียบได้เต็ม 100% หรือพูดว่าอาจจะเป็นเหมือนกัน โมมีความเป็นมืออาชีพอย่างเหลือเชื่อ เขาเป็นคนแรกที่เข้ามา และหลายครั้งที่เป็นคนสุดท้ายในบรรดานักเตะทั้งหมดที่ออกไป เขามีความสนใจสิ่งที่แตกต่างที่เขาสามารถทำได้อยู่ตลอดเวลา เขาทำเพื่อพัฒนาหรือรักษามาตรฐานหรือเพื่อปรับปรุงมาตรฐาน สิ่งต่าง ๆ ลักษณะนี้ทั้งหมด ผมคิดว่าเขายังคงทุ่มเทเต็ม 100%

พูดถึงความสำคัญที่ลิเวอร์พูลต้องป้องกันอย่างดีที่สุดในวันอาทิตย์…

ถ้าคุณไม่ป้องกันให้ดีในการเจอกับยูไนเต็ด ผมก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเราควรเข้าไปในรถโค้ชและไปที่นั่น ด้วยความสัตย์จริง เพราะคุณภาพที่พวกเขามีในเกมรุกนั้นเป็นเรื่องตลกอย่างสิ้นเชิง ใช่ คุณพูดถูก เราต้องพิจารณาเรื่องนั้น ผมไม่คิดจริง ๆ ว่ามันเป็นไปได้ที่คุณจะยิงสามประตูในเกมเยือนยูไนเต็ดได้ แต่เราไม่เคยคิดก่อนเกมเกี่ยวกับการทำประตูมากกว่าที่เราทำเกี่ยวกับการป้องกัน ดังนั้น สำหรับเรา มันชัดเจนอย่างเต็มที่ว่าจะเข้าสู่เกม อยู่ในเกมและเอาชนะเกมได้ คุณต้องป้องกันในระดับสูงสุด เราต้องมุ่งมั่นกับเรื่องนั้นแต่ไม่เพียงอย่างเดียว เพราะเราต้องสร้างสรรให้ดีด้วย เราต้องเล่นฟุตบอล เป็นเรื่องสำคัญมาก เราต้องกล้าหาญอย่างมาก กล้าหาญเพราะบอลแต่ละลูกที่คุณเสียไปในการเจอกับยูไนเต็ดนั้นถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ มันคือการโต้กลับด้วยความเร็วที่พวกเขามี และทุกสิ่งทุกอย่างลักษณะนั้น มันเป็นเกมที่สูสีในการเล่นกับยูไนเต็ด แต่เรายังคงต้องการจะทำมันและตั้งหน้าตั้งตารอคอยมันเพราะอย่างที่เราทุกคนรู้ดี มันคือหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มันจะเป็นเกมที่ดี