มันเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของเขาในอาชีพการเล่น แต่ทัฟฟาเรลจำได้ว่าเป็นผู้นำในฟุตบอลโลก 1994 เขานึกถึงบรรยากาศก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มในบราซิล ความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่บนบ่าของเขา และเพื่อนร่วมทีมของเขา

ความทรงจำของทีมในปี 1970 ที่โลดโผนไปสู่ความรุ่งโรจน์ในเม็กซิโกด้วยเพลงเอลัน และที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน หรือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กำลังเลือนหายไปจากอดีตอันไกลโพ้น ชาวบราซิลต้องการ มันจำเป็นที่จะต้องได้แชมป์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง

การเบียดเอาชนะอิตาลีด้วยการด้วยจุดโทษในพาซาเดนา, แคลิฟอร์เนีย, ทีมของคาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาเรร่าทำได้ กับเซฟจุดโทษของทัฟฟาเรลที่หยุดลูกยิงของดานิเอเล่ มาสซาโร่ ก่อนที่โรแบร์โต้ บักโจ้จะซัดข้ามคานไปอย่างน่าอับอาย

ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว โค้ชผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล และลิเวอร์พูล อธิบายว่าทีมชุดปี 2022 เผชิญหน้ากับความต้องการในระดับใกล้เคียงกัน โดยทีมเซเลเซาผ่านช่วงเวลาสองทศวรรษที่ไม่ได้รางวัลใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล

“ก่อนปี 1994 และผ่านมา 24 ปี แล้วโดยไม่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก ผมคิดว่ามันเป็นความกดดันแบบเดียวกันในครั้งนี้” ทัฟฟาเรลกล่าวกับ Liverpoolfc.com ในระหว่างการพูดคุยที่แอกซ่า เทรนนิง เซนเตอร์ ซึ่งมีมาร์เซโล่ ปิตาลูก้าลูกศิษย์ และเพื่อนร่วมชาติของเขาช่วยเหลือในการแปลภาษา

“ความกดดันสูงเสมอเมื่อบราซิลไปเล่นฟุตบอลโลก แต่ผมมั่นใจ ผมคิดว่ากลุ่มมีประสบการณ์ที่ลงตัว และนักเตะเยาวชน
ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นส่วนผสมที่ดีจริงๆ” บราซิลแชมป์โลก 5 สมัยอยู่ในกลุ่มตัวเต็งที่คว้าแชมป์โลกตลอดกาล

ทีมของตีเต้ยังคงไม่แพ้ใครตลอดความท้าทายในรอบคัดเลือก 17 เกม ที่เขาชนะ 14 และเสมอ 3 โดยทัฟฟาเรลไม่สนใจความคาดการณ์ต่างๆ และมองว่าการกระทำสำคัญกว่า

“ใช่ มีความเชื่อในหมู่คนบราซิล และผู้คนนอกประเทศเช่นกันที่รู้สึกว่าอาจจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งคว้าแชมป์โลก”เขารู้ดี

“แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการเสริมสร้างความมั่นใจนี้ ความรู้สึกนี้ ระหว่างการแข่งขัน และไม่ใช่ก่อนหน้านั้น โอเค คุณอาจจะเป็นตัวเต็งก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม แต่คุณต้องทำให้ตัวคุณกลายเป็นตัวเต็งเมื่อคุณอยู่ที่นั่น หลังจากเกมแรก หลังจากเกมที่สอง”

“คุณต้องสร้างความมั่นใจของคุณในสนาม นั่นคือจุดที่คุณจะแสดงว่าคุณเป็นหนึ่งในตัวเต็ง”

ทัฟฟาเรลพูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่มากมายของเขา หลังจากนี้ นี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่หกของเขา

เขาเป็นมือหนึ่งของทีมชาติบราซิลในปี 1990, 1994 และ 1998

ในปี 2010 เขาได้ชมทัวร์นาเมนต์ตามคำขอร้องของดุงก้าที่เป็นเฮดโค้ชหลังจากนั้น และเป็นกัปตันทีมของทัฟฟาเรล ในยูเอสเอส’94 และฟร้องค์’98 ที่บราซิลเสียแชมป์ให้กับเจ้าภาพ
หลังจากที่เขาเซฟสองจุดโทษในระหว่างการดวลจุดโทษที่ชนะฮอลแลนด์ในรอบรองชนะเลิศ จากนั้นทัฟฟาเรลก็ร่วมทีมโค้ชของเซเลเซาอย่างเป็นทางการหลังจากทัวร์นาเมนต์ปี 2014 ในบ้านเกิด และเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานเบื้องหลังของติเต้ในรัสเซียสี่ปีต่อมา

“ใช่แล้ว ’94 เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของผม ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของผม” เขาเล่า

“แต่สี่ปีหลังจากนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังที่สุดที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศนั้น เรามีทัวร์นาเมนต์ที่ดี
แต่หลังจากนั้นเราแพ้ในนัดชิงชนะเลิศต่อฝรั่งเศส”

“สำหรับนักเตะชาวบราซิล การลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลในฟุตบอลโลกคือจุดสูงที่สุดที่คุณจะทำได้ในวงการฟุตบอล ส่วนใหญ่เพราะผู้คน ความเชื่อมั่นในตัวนักเตะเป็นอย่างไร และพวกเขาคาดว่าเราจะทำได้ดีจริงๆ เพื่อจะชนะมัน ดังนั้นสำหรับนักเตะ ผมคิดว่ามันคือเรื่องใหญ่ที่สุด”

“คนทั้งประเทศหยุดนิ่งระหว่างฟุตบอลโลก และในบราซิล สิ่งเดียวที่สำคัญคือชัยชนะ การได้ที่หนึ่ง!”

“ซึ่งอย่างที่ผมเคยพูด เราต้องสร้างความมั่นใจเมื่อเราอยู่ที่นั่น เราต้องการชัยชนะเกมเพื่อทำให้ตัวเองเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์โลก ในทัวร์นาเมนต์นี้
ความผิดพลาดเล็กน้อยสามารถส่งคุณกลับบ้าน และนี่คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น”

ทัฟฟาเรลเป็นฮีโร่ของทีมชาติบราซิลในรอบรองชนะเลิศ ’98 แต่ฝรั่งเศสชนะในรอบชิงชนะเลิศ

ทัฟฟาเรลเข้าร่วมกับทีมชาติบราซิลทันที หลังจากลิเวอร์พูลชนะเซาท์แฮมป์ตัน การบินไปตูรินในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่เซเลเซากำลังทำสิ่งที่ว่า ‘พรีซีซั่นเล็กๆ’ ก่อนเดินทางไปกาตาร์

การเตรียมตัวของทุกชาติได้รับผลกระทบจากลักษณะเฉพาะของการเล่นฟุตบอลโลกกลางฤดูกาล แต่ทัฟฟาเรลเชื่อว่านักเตะที่มาร่วมทัวร์นาเมนต์นี้จะสดกว่าหลังการผ่านฤดูกาลที่ยากลำบากกับสโมสร

“ผมคาดว่านักเตะจะรู้สึกดี อาจจะดีกว่าตอนที่ฤดูกาลจบ แต่แน่นอนว่ามันจะเป็นความท้าทายใหม่สำหรับทุกคน เพราะช่วงเวลาของทัวร์นาเมนต์”เขากล่าว

“นี่คือฟุตบอลโลกที่แตกต่างจากฟุตบอลโลกครั้งอื่นๆ ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ใหม่ของทุกคน แต่ผมคิดว่านักเตะอาจจะรู้สึกดีกว่าที่พวกเขาทำตอนที่มันจบฤดูกาล ตอนที่มีช่วงเบรกยาวก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม”

เกมแรกของบราซิลจะพบกับเซอร์เบียในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน และอลีสซง เบ็คเกอร์ และฟาบินโญ่สองนักเเตะหงส์แดงจะรอคอยโอกาสที่ลูเซล สเตเดียม
ซึ่งตีเต้โชคดีมากที่มีสองผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกรวมถึงเอแดร์ซอนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

“เป็นการแข่งขันที่ดีมากระหว่างพวกเขาทั้งสองคน แต่เป็นการแข่งขันที่ดีด้วย เพราะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันนอกสนาม พวกเขาให้ความเคารพกันและกันเป็นอย่างมาก”ทัฟฟาเรลตอบ
เมื่อถามถึงรายละเอียดว่าการโค้ชผู้รักษาประตูของพวกเขาเป็นอย่างไร

หากบราซิลได้ชูถ้วยแชมป์โลกในกาตาร์เป็นสมัยที่ 6 ทัฟฟาเรลจะร่วมงานกับสโมสรพร้อมกับถูกยกเป็นบุคคลพิเศษที่เคยได้แชมป์ทั้งในฐานะนักเตะ และโค้ช
และเขามีอะไรจะบรรยายถึงความหมายต่อมรดกที่เขาทิ้งไว้ในวงการหรือไม่?

“ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ หากพูดตามตรง เกี่ยวกับการได้แชมป์ในฐานะโค้ช” เขาเริ่มตอบอย่างถ่อมตัว

“แน่นอนว่าในฐานะทีมงานเราเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักร ของทีมใหญ๋ แต่ต้องให้เครดิต และทุกอย่างควรจะยกให้กับนักเตะ”

“พวกเขาเป็นคนที่เดินหน้าต่อไปในสนาม พวกเขาเป็นคนที่ทำงาน สำหรับผม มันเป็นของนักเตะ เครดิตทั้งหมดจะต้องมอบให้กับนักเตะ”