“การดวลกันของยอดฝีมือในยุทธภพ มักจะจบลงด้วยการลงมือในกระบวนท่าแรก

“การดวลกันของยอดฝีมือในยุทธภพ มักจะจบลงด้วยการลงมือในกระบวนท่าแรก

ผลการดวลระหว่าง Jurgen Klopp กับ Ole Gunnar Solskjear ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ก็เป็นเช่นนั้น

ถ้าจะมองว่า ชื่อชั้นของเหล่าจอมยุทธฺทั้ง 2 สำนัก อยู่ในระดับฝีมือที่ใกล้เคียงกันมาก มีผู้รักษาประตูระดับใกล้เคียงกัน ผู้คุมแนวรับราคาแพง มิดฟิลด์เชิงสูง ผู้เล่นแนวรุกมีความเร็ว คม มีซุปเปอร์สตาร์เป็นหัวหอกเหมือนกัน ดังนั้น ผลแพ้ ชนะ เสมอ ออกได้หมด ขึ้นกับความแตกต่างก็คือ “กลยุทธ์” และ “บทบาทหน้าที่ของผู้เล่น”
ในเกมที่เหล่าจอมยุทธสำนักหงส์แดงบุกไปถล่มโรงละครแห่งความฝัน จนกลายเป็นฝันร้ายของเหล่าสาวกปีศาจแดง เริ่มต้นด้วยความประหลาดใจของแฟนบอลทั้งสองทีมเมื่อได้เห็น 11 คนแรกของลิเวอร์พูล ซึ่งทั้ง Matip และ Mane ออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรอง ส่วน Fabinho นักตะที่เป็นตัวความหวังสูงสุดในแดนกลางมีอาการบาดเจ็บ ไม่มีชื่อในเกมนี้
แต่กลาย 2 ตัวแทนอย่าง Keita และ Jota ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น มีส่วนกับประตูของทีม ส่วน Konate ที่เพิ่งลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกเป็นเกมที่ 2 ก็เก็บคลีนชีตได้ทั้งสองนัดที่ลงเล่น
และบทสรุป คือ เหล่าสาวกปีศาจหลายคนถึงกับทนดูต่อไม่ได้ พาตัวเองกลับออกจากโรงละครของพวกเขาทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง
ชัดเจนว่าทีมของ Klopp ชนะเกมนี้ ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ลงสนาม โดยมีเป้าหมายทำลายล้างตามช่องว่างต่างๆในแนวรับของเหล่าขุนพลยูไนเต็ด และด้วยการโจมตีเพียงครั้งแรก ก็สร้างความแตกต่างในเกมได้สำเร็จ
หากไม่นับฟอร์มอันร้อนแรงของ Mo Salah ที่ร้อนมาอย่างตอเนื่อง และเกมนี้ยิงอีก 3 ประตู 1 แอสซิสต์ สร้างสถิติใหม่มากมาย ยิงประตูติดต่อกัน 10 นัด หรือยิงไปแล้ว 15 ประตูจากการลงเล่น 12 นัดในฤดูกาลนี้ เราจะพบว่า Klopp ใช้นักเตะอีกคนหนึ่งเป็นเพลงกระบี่สังหารในเกมนี้ นั่นคือ Naby Keita
นับตั้งแต่ย้ายมาสวมชุดหงส์แดง นี่เป็นเกมที่ Keita เล่นได้ดีที่สุด ด้วยบทบาทมิดฟิลด์ฝั่งขวา ประสานเป็นสามเหลี่ยมกับ Salah และ TAA บทบาทเดิมที่เจ้าหนู Elliott เคยถูกจับลงไปเล่นก่อนบาดเจ็บยาว
ประตูแรกในนาทีที่ 4 ซึ่งเขาวิ่งสอดขึ้นมาในเกมสวนกลับ รับบอลจากราชันย์อียิปต์ หลุดไปคนเดียวโล่งๆ ยิงสวน De Gea เข้าไป
ประตูที่ 2 มิดฟิลด์ชาวกินี ขยับขึ้นมาพักบอลเหมือนเป็น False 9 อีกคน สร้างความสับสนให้ Shaw วิ่งหุบตามเข้ามาจนชนกับ Mcguire เปิดทางให้ TAA ยืนโล่งๆ มีเวลาปั้นลูกครอสเข้ามาให้ Jota เหยียดเท้าแตะบอลเข้าไป
ประตูที่ 3 ในจังหวะที่ Salah ยิงติดบล็อก บอลหลุดออกไปด้านข้างที่ไม่มีใครอยู่เลย แต่ Keita ทะลุขึ้นมาจากแดนกลางราวกับภูติผี ก่อนจะยัดบอลมาที่เสาแรกให้ Salah ซึ่งวิ่งหนีตัวประกบออกมาเปลี่ยนทางบอลเข้าไป
ยังมีจังหวะที่ Keita ยิงสวนบอลที่ถูกสกัดออกมาจากลูกเตะมุม ซึ่งแม้จะไม่เข้ากรอบ แต่ 2 ประตูล่าสุดก่อนเกมนี้ที่เขาทำได้กับ พาเลซ และ แอตเลติโก มาดริด ก็เป็นการยิงในแบบเดียวกัน นั่นหมายความว่า นี่คือ ท่าไม้ตาย
ฤดูกาลนี้ Keita ลงเล่นทุกรายการไป 9 นัด (6 นัดในลีก) รวม 507 นาที ยิงได้ 3 ประตู 1 แอสซิสต์ ขณะที่ในฤดูกาลที่แล้ว ลงเล่นในลีกไปเพียง 10 นัด 521 นาที ไม่มีประตู ไม่มีแอสซิสต์
ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ บทบาทการวิ่งของ Naby ในเกมที่โอลแทรฟฟอร์ด ต่างจากในเกมแชมเปี้ยนลีกส์กับแอตโลติโก มาดริดอย่างสิ้นเชิง
เมื่อกลางสัปดาห์ นักเตะชาวกินีถูกเปลี่ยนตัวตั้งแต่จบ 45 นาทีแรก แม้จะทำประตูที่ 2 ให้ทีมได้ โดย Jurgen Klopp บอกว่า มีแผนจะให้เล่นแค่ครึ่งเดียวอยู่แล้ว เพราะเขากรำศึกหนัก 3 เกม ใน 6 วัน กับทีมชาติมา … แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ ก็เห็นตรงกันว่า เหตุผลที่ Keita ต้องออกจากสนามเมื่อกลางสัปดาห์ เป็นเพราะเขามีปัญหาในการเล่นเกมรับ เป็นเหตุให้ทีมถูกยิงถึง 2 ประตูก่อนหมดครึ่งแรก จนต้องเปลี่ยนให้ Fabinho ลงมาตัดบอลและคุมจังหวะเกมให้อยู่ในรูปในรอยแทน
ดังนั้นเมื่อ Fabinho หายไป กลับมีชื่อ Keita ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมลงเล่นเป็นแผงมิดฟิลด์ชุดเดียวกันกับเกมครึ่งแรกซึ่งโดนเลี้ยงหลบกันระเนระนาดที่มาดริด ย่อมทำให้เดอะค็อปมีความกังวลใจ
แต่กลับกลายเป็นว่า ปัญหาที่มาดริด ได้ถูกแก้ไขไปอย่างรวดเร็ว
จากจุดอ่อนที่มาดริด Keita กลายเป็นอาวุธหลักที่เล่นงานขุนพลอสูรแดงจนย่อยยับคาโรงละครแห่งความฝัน และดูเผินๆเหมือนเขากำลังจะถูกสถาปนาให้เป็นตัวหลักในพื้นที่มิดฟิลด์ฝั่งขวา ตามแผน “สามเหลี่ยมที่ยืดหยุ่น” (Flexible Triangle) ของ Klopp เข้าไปทุกที
น่าเสียดาย ในวันที่เขาโชว์ฟอร์มดีที่สุดนัดหนึ่งในชีวิต Keita ต้องถูกหามออกจากสนามพร้อมอาการบาดเจ็บอีกครั้ง
จอมยุทธอาภัพผู้นี้ เพิ่งจะถูกใช้เป็นเพลงกระบี่ลับสังหารเหล่าปีศาจแดงได้สำเร็จ เขากำลังจะเริ่มสร้างชื่อให้เลือนลั่นยุทธภพแท้ๆ
มีโจทย์ให้ Klopp ต้องคิดแผนใหม่อีกแล้ว
– มารชรา –

• เรื่องน่าสนใจ •

สัมภาษณ์แรกของวาตารุ เอ็นโด ‘มันคือฝันที่เป็นจริงที่ผมได้เซ็นสัญญากับทีมลิเวอร์พูล’

วาตารุ เอ็นโด อธิบายว่าเขาบรรลุความทะเยอทะยานที่มีมาอย่างยาวนานอย่างไร...